
เปิดโผหุ้นกลุ่มนอก SET100 มีโอกาสถูก “CoverShort” สูง
จับตาตลาดหลักทรัพย์ฯ ทบทวนมาตรการกำกับ เริ่มใช้ไตรมาส 2 นี้ กระตุ้น "Cover Short" หุ้นกลุ่มนอก SET100 ที่มีการทำชอร์ตเซล "บล.กรุงศรี" แนะ TTA, TKN, PTG, THCOM, THANI, PSL, SNNP, SC และ CPAXT
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (21 ก.พ.68) จากกรณี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีมติเห็นชอบแนวทางปรับปรุงมาตรการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่น ได้แก่ 1. การกำกับดูแลการขายชอร์ต 2. การกำกับดูแลคำสั่งซื้อขายแบบ High Frequency Trading (HFT) และ 3. การผ่อนคลายมาตรการที่ได้ประกาศใช้เมื่อปี 2567 โดยได้พิจารณาแนวทางและมาตรการอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดความเหมาะสมของการใช้มาตรการตามสถานการณ์ มุ่งหวังที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน และสร้างเสถียรภาพตลาดหุ้นไทยนั้น
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวว่า มีมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อมาตรการดังกล่าว เพราะช่วยลดความผันผวนของหุ้นขนาดกลาง-เล็กได้ดีขึ้น
โดยปัจจุบันหุ้นนอกกลุ่ม SET100 มีสัดส่วนราว 20% ของตลาดหุ้นไทย รวมถึงเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อการลงทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีศักยภาพเติบโตระยะกลางถึงยาว โดยไม่มีความผันผวนระยะสั้นที่มากเกินควร
“การทำ Short Sales หุ้นที่อยู่นอก SET100 มีค่อนข้างมาก ดังนั้น ภาพรวมของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก อาจจะมีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาเวลาสภาพเปราะบางแล้วสามารถทำ Short ได้ ตลาดหุ้นจึงเหวี่ยง เมื่อมีภาพของการห้าม Short Sales หุ้นขนาดกลาง-เล็กจึงเป็นผลดี ขณะที่ SET100 ก็ยังเหมือนเดิม” นายกรภัทร กล่าว
ทั้งนี้ การปรับเกณฑ์ดังกล่าวคาดหนุนหุ้นกลุ่มนอก SET100 มีโอกาสถูกเร่ง Cover Short โดยปัจจุบันหุ้นที่มีประเด็นหนุนระยะสั้น ในกลุ่มดังกล่าวที่ยังถูก Short สูงกว่าค่าเฉลี่ย (0.15% ของทุนชำระแล้ว) และคาดเห็นการเร่ง Cover Short แนะนำเก็งกำไร เช่น บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA (ยอด Short 1.04%), บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN (ยอด Short 0.79%), บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR (ยอด Short 0.62%), บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG (ยอด Short 0.58%)
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM (ยอด Short 0.48%), บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI (ยอด Short 0.46%), บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL (ยอด Short 0.38%), บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH (ยอด Short 0.36%), บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP (ยอด Short 0.26%), บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT (ยอด Short 0.25%), บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC (ยอด Short 0.16%) และ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT (ยอด Short 0.15%)
นายกรภัทร กล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงผันผวน แต่ยังมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจากมีปัจจัยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (US10Y) ที่เริ่มลดระดับลงมา อีกทั้งค่าเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า รวมถึงมีแรงซื้อหุ้น และกองทุนจากต่างชาติเข้ามา
อีกทั้ง สัญญาณบวกจากกระแสซีรีย์ The White Lotus season 3 เนื่องจาก Agoda มียอดค้นหาที่พักในเกาะสมุยเร่งขึ้นเป็น 65% จากนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ ส่งผลให้หุ้นที่มีโครงสร้างรายได้จาก เกาะสมุย อาทิ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA รับอานิสงส์บวก
ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยจะเหวี่ยงในช่วงแรก และฟื้นตัวขึ้น โดยให้แนวรับที่ระดับ 1,253-1,250 จุด และแนวต้านที่ระดับ 1,270-1,280 จุด
ขณะที่ ข้อมูลเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนเฮียริ่ง ที่จะเริ่มใช้ไตรมาส 2/2568 ได้แก่ 1.การขาย Short Sales ให้เฉพาะกลุ่มหุ้นใน SET100 (เดิม = SET100 + Non-SET100 ที่มีสภาพคล่องสูง มีมาร์เก็ตแคป 3 เดือนเฉลี่ยเกิน 7.5 พันล้านบาท มี Monthly Turnover 12 เดือนไม่น้อยกว่า 2% และฟรีโฟลต มากกว่าหรือเท่ากับ 20%) นอกจากนี้ จะปรับเกณฑ์ Uptick Rule เมื่อจำเป็น เมื่อหลักทรัพย์นั้น ๆ เข้าเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ราคาปรับลงแรงวันนี้ วันทำการถัดไปจะถูกบังคับใช้เกณฑ์ Uptick (ปัจจุบันใช้ Uptick ทั้งหมด)
2.การส่งคำสั่งซื้อนักลงทุนกลุ่ม High Frequency Trade จะทำได้เฉพาะหุ้นใน SET100 และ 3. ยกเลิกเกณฑ์กำหนดเวลาขั้นต่ำในการส่งคำสั่งซื้อขาย (Minimum Resting Time) เลื่อนการใช้ Dynamic Price Band เฟส 2