
TRUE ลั่นปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” รับรายได้โมบาย-ออนไลน์โต เล็งปันผล 50% ของกำไร
TRUE ลั่นปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” รับรายได้มือถือโมบาย-ออนไลน์โตดี เล็งจ่ายปันผลมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยตั้งเป้า EBITDA เติบโต 8-10% จากแผนการควบรวมเต็มปี พ่วงเน้นการใช้เทคโนโลยี 5G และ AI ขยายบริการดิจิทัลหนุน วางงบลงทุนปีนี้ 2.8-3 หมื่นล้านบาท ลุยขยายโครงข่ายและบริการดิจิทัล พร้อมกางแผน 3 ปี (68-70) ดัน EBITDA Margin เพิ่มเป็น 67% จากปี 67 อยู่ที่ 59% พ่วงลดหนี้เหลือระดับ 3.2 เท่าภายในปี 70
นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 2568 บริษัทฯวางเป้ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) และโรมมิ่งภายในประเทศกับ NT เติบโต 2-3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามรายได้ต่อเลขหมาย/เดือน (ARPU) เติบโตดี และการขยายฐานสมาชิกในระบบออนไลน์ที่จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและรายได้จากบริการดิจิทัลและการสตรีมมิ่ง นอกจากนี้คาดว่า EBITDA จะเติบโต 8-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปีนี้รับรู้ผลประโยชน์การควบรวมเต็มปี โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีตามรายงานและได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการจ่ายเงินปันผลมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของคณะกรรมการ
“ปีนี้บริษัทวางกลยุทธ์เพื่อมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยมุ่งเน้นที่การขยายการให้บริการดิจิทัลที่รองรับความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน รวมทั้งการนำเทคโนโลยี 5G และ AI มาปรับใช้ในการพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% ในอนาคต และการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกที่ซ้ำซ้อนถึง 40% เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน พร้อมทั้งมีการขยายธุรกิจผ่านพันธมิตรและการปรับปรุงองค์กรให้พร้อมสำหรับการเติบโต รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและการจ่ายเงินปันผลที่มีความยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต” นายนกุล กล่าวเพิ่มเติม
ส่วนปีนี้บริษัทวางงบลงทุน(CAPEX) รวมการบูรณาการคาดว่าจะอยู่ที่ 2.8-3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามวางเป้าผลการดำเนินงานระยะกลางและระยะยาว(ปี 68-70) โดยวางเป้าลดความเข้มข้นในการใช้ CAPEX ในอนาคตให้ลดลงต่อเนื่องจาก รวมทั้งการบริหารจัดการการก่อหนี้ (Leverage) ให้ต่ำลง โดยตั้งเป้าหนี้สินต่อทุนในปี 2568 อยู่ในระดับ 4.0 เท่า จากระดับที่ 5.2 เท่า ในปี 2566 และลดลงเหลือ 3.2 เท่าภายในปี 2570 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัทและเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุนในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทวางเป้าหมาย EBITDA Margin ในปี 68 เป็น 63% จากเดิมคาดอยู่ที่ 59% และภายในปี 70 ปรับขึ้นเป็น 67% ภายใต้กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การพัฒนาเครือข่าย 5G และการขยายบริการที่เกี่ยวข้องกับ AI และ Digital Solutions ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มรายได้และกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร TRUE กล่าวว่า บริษัทมั่นใจในปี 2568 จะส่งมอบเครือข่ายที่ดีที่สุดครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมคุณภาพบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ เรากำลังยกระดับการบริการลูกค้าด้วยการนำ AI เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ทั้งการแนะนำบริการที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย การให้ความช่วยเหลือทันทีโดย ‘มะลิ’ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเสมือน และการสนับสนุนพนักงานขายและคอลเซ็นเตอร์ด้วย AI co-pilots
ในปี 2568 มีเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้บริการดิจิทัลจากหนึ่งในสามเป็น 40% และขยายฐานผู้ใช้ดิจิทัลเป็น 20 ล้านราย แอปพลิเคชันบริการหลังการขายที่ปรับปรุงใหม่ของเราจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบบิล รับสิทธิประโยชน์ และรับบริการ AI ครบได้ในที่เดียว ทั้งนี้ปี 2568 จะเป็นปีที่สร้างกำไร พร้อมส่งมอบความประทับใจให้ลูกค้าผ่านความสำเร็จของทรู
โดยในไตรมาส 4/2567 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้น 116,000 เลขหมาย หรือ 0.2% จากไตรมาสที่ผ่านมา มีจำนวน 49.4 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นตัวเลขภายหลังจากการลดลงของผู้ใช้บริการ 133,000 เลขหมายจากความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการฉ้อโกง ผู้ใช้บริการระบบรายเดือนคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 15.2 ล้านเลขหมาย ในขณะที่ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินมีจำนวน 34.2 ล้านเลขหมาย ผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2567 ผู้ใช้บริการ 5G มีจำนวน 13.8 ล้านเลขหมาย
ด้านนาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร TRUE ว่า “ปี 67 แม้เป็นปีที่มีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงเดินหน้าพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง และ EBITDA เติบโตเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่เราอยู่ท่ามกลางความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการเติบโต เรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมกับเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งนอกจากความสำเร็จด้านธุรกิจแล้ว เรายังภูมิใจที่ได้รับการยกย่องให้เป็นองค์กรที่ยั่งยืนที่สุดในกลุ่มโทรคมนาคมระดับโลก โดยเป็นอันดับที่ 1 ในดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7”