“กสทช.” จับมือ “พก.” แจกซิมเน็ต “คนพิการ” 1.1 ล้านคน หนุนเข้าถึงบริการพื้นฐาน

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และบริษัท บางกอกเทลลิ้ง จำกัด ดำเนินการจัดส่ง ซิมอินเทอร์เน็ตให้กับคนพิการที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนพิการได้เข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของคนพิการ เช่น การเข้าถึงบริการสาธารณะ เพิ่มช่องทางการสื่อสารให้สามารถดำรงชีวิตได้สะดวกมากขึ้น

โดยคนพิการจะได้รับซิมอินเทอร์เน็ตตามรายชื่อ และที่อยู่จากฐานข้อมูลของ พก. ซึ่งจะจัดส่งไปตามบ้าน โดยผู้ที่ได้รับซิมอินเทอร์เน็ตสามารถดำเนินการได้ ดังนี้ (1) เปิดใช้ซิมอินเทอร์เน็ตใหม่ (2) เลือกใช้หมายเลขโทรศัพท์เดิมและโอนย้ายค่ายไปยังผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ และ (3) กรณีไม่ประสงค์ใช้งานซิมอินเทอร์เน็ตดังกล่าว สามารถเลือกไม่เปิดใช้งาน

“สำนักงาน กสทช. มีความมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำในมิติเชิงสังคม สร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับคนพิการที่ยากจนได้มีโอกาสเข้าถึงบริการการสื่อสารและใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิต อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของสำนักงาน กสทช. ในการดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง” นายไตรรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในฐานะคู่ความร่วมมือ มีภารกิจหลัก เพื่อให้เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิ์และสวัสดิการได้อย่างทั่วถึง พก. ได้ร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. ในการแจก “ซิมอินเทอร์เน็ตฟรี” ให้กับคนพิการที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ได้แก่ ผู้ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,100,000 คน ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ พก. ยังอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการโดยช่วยลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และเพิ่มโอกาสในการใช้ประโยชน์จากโลกดิจิทัล

โครงการนี้เกิดขึ้นจากความตระหนักถึงความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ของคนพิการโดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน การมีอินเทอร์เน็ตใช้จะช่วยให้คนพิการสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล ความรู้ โอกาสทางอาชีพ และบริการภาครัฐได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสารและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนพิการให้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งโครงการนี้ไม่เพียงแค่ “ให้ฟรี” แต่ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้คนพิการก้าวทันโลกดิจิทัล และมีโอกาสเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ อย่างเท่าเทียม