
XPG พอร์ตสินเชื่อพุ่ง! ดันกำไรปี 67 โตทะลัก 51% แตะ 161 ล้านบาท
XPG พอร์ตสินเชื่อพุ่ง! ดันกำไรปี 67 โตทะลัก 51% แตะ 161 ล้านบาท พร้อมวางเป้าปี 68 โกยรายได้ทะลุ 1,100 ล้านบาท โต 20%
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายของตลาดการเงินปี 2567 บริษัทยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนศักยภาพในการปรับตัวอย่างรอบด้าน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% และมีกำไรสุทธิที่ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมีรายได้หลักมาจากรายได้จากดอกเบี้ยที่ทำได้ 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% รายได้จากเงินลงทุนและปันผล 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% และรายได้อื่น ๆ 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 216% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยรายได้และกำไรในปี 2567 ที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการมุ่งเน้นการใช้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัทที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจรเข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงินและการลงทุนของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยธุรกิจสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุน อย่างธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นติดต่อกันถึง 6 ไตรมาส ซึ่งเป็นผลจากสภาวะดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลให้สถาบันทางการเงิน รวมถึงธนาคารเริ่มชะลอการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขการปล่อยกู้ภาคเอกชน ณ สิ้นปี 2567 ที่หดตัวครั้งแรกในรอบ 21 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 ทำให้ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจมองหาทางเลือกใหม่ในการขอสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดขอสินเชื่อเงินทุนของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่น โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของบริษัทอยู่ที่ราว 4,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้าราว 110% นอกจากนี้ในสภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวยังเป็นโอกาสของบริษัท ที่สามารถไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าได้อีกด้วย
ขณะเดียวกันในส่วนของบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจจัดการกองทุนในกลุ่มบริษัท ได้มีการออกกองทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งกองทุนรวม (Mutual Fund) กองทุนส่วนบุคคล (Private Equity) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทได้ร่วมมือกับ Macquarie Asset Management ผู้นำด้านการจัดการสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก เปิดตัวกองทุน X-PEGINFRA-UI กองทุนเปิดโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึงกองทุน X-PLUS ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาให้ครบทุกมิติ ตั้งเป้าปี 68 ขยายธุรกิจกองทุน และธุรกิจนายหน้าจัดจำหน่ายกองทุนรวม (LBDU) หนุนสินทรัพย์ภายใต้การจัดการแตะระดับ 16,000 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในกลุ่มบริษัท ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงของสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้นโยบายจากภาครัฐยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้จากส่วนแบ่งรายได้และเงินปันผลจากโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ซึ่งคาดว่าจะตัวเป็นตัวขับเคลื่อนให้การเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยปัจจุบันมีแผนในการเสนอขายราว 3 – 5 โครงการ โดยจะเริ่มเสนอขายโครงการแรกในไตรมาส 1 นี้
สำหรับธุรกิจติดตามหนี้ และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท มีผลประกอบการที่น่าพอใจ เป็นผลจากการที่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เน้นไปที่คุณภาพในการจัดเก็บหนี้ในพอร์ตเดิม และเพิ่มมาตรการในการติดตามหนี้ด้อยคุณภาพอย่างเข้มข้นมากขึ้น ทำให้มียอดจัดเก็บหนี้เพิ่มขึ้น โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเข้าประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ 1,000-2,000 ล้านบาท หนุนพอร์ตบริหารหนี้รวมที่ระดับ 6,000 ล้านบาท
ปี 2567 ถือเป็นก้าวสำคัญแห่งการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ของบริษัท โดยได้มุ่งสู่ Business Transformation เพื่อให้เกิดการใช้ Ecosystem จากทุกทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการบริหารด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงยึดมั่นการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นในการสนับสนุนลูกค้าทั้งด้านเงินทุน และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจยุค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม ทั้งกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ กลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และกลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มให้บริการ “XSpring Application” แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์ด้านการลงทุนให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น
“การเติบโตท่ามกลางความท้าทายจากหลายปัจจัย ตอกย้ำว่า XSPRING รุกธุรกิจได้ถูกทาง สะท้อนจากผลประกอบการในปี 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปี 2567 เชื่อมโยงธุรกิจในเครือทั้งด้าน Traditional และ Digital เข้าด้วยกัน โดยจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายฐานลูกค้าจาก Application ที่พร้อมใช้งานในปีนี้” นางสาววรางคณา กล่าวปิดท้าย