“พิชัย” กดดัน กนง. “ลดดอกเบี้ย” มั่นใจเปิด “Thai ESG 2” รับเงิน LTF ทัน มี.ค.นี้

รองนายกฯ และ รมว.คลัง ส่งสัญญาณกดดัน กนง. ปรับลดดอกเบี้ย พร้อมย้ำเปิดตัว กองทุน Thai ESG ใหม่ รองรับการโยกเงินจาก LTF ทัน มี.ค.นี้อย่างแน่นอน หลังหารือหลักการเรียบร้อย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ก.พ.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ว่า การพิจารณาอัตราดอกเบี้ย เป็นการพิจารณาจากเงินเฟ้อ โดยปัจจุบันเงินเฟ้อของประเทศไทยถือว่าต่ำอย่างต่อเนื่อง หากเงินเฟ้อลงแล้วสามารถเพิ่มความร้อนแรงทางเศรษฐกิจได้บ้างก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีกว่าปีที่แล้ว โดยปีที่แล้ว GDP ขยายตัวได้ 2.5% แต่ในช่วง 2 ไตรมาสแรกยังไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากนัก อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาการขยายตัวของ GDP ในไตรมาสที่ 3 และ 4 หากเศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับปีนี้

นายพิชัย กล่าวอีกว่า เรื่องการลดดอกเบี้ยนั้น นอกจากกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังช่วยเรื่องการส่งออก เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าลง จะเป็นประโยชน์กับการส่งออก โดยประเทศไทยขณะนี้ค่าเงินถือว่ายังแข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ซึ่งเรื่องนี้เมื่อดูย้อนหลังก็จะเห็นว่า แนวโน้มค่าเงินของเราแข็งขึ้น ซึ่งค่าของเงินเป็นผลลัพธ์ของมาตรการต่าง ๆ และเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแข่งขัน

รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวถึงถึงการหารือกับรัฐบาลญี่ปุ่น โดยระบุว่า ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออก เคยมีค่าเงินแข็งค่าเป็นเวลานาน ก่อนจะอ่อนค่าลงในช่วงหลัง ซึ่งช่วยส่งเสริมศักยภาพการส่งออก แม้ว่าผู้ประกอบการที่พึ่งพาการนำเข้าจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่โดยรวมแล้วเศรษฐกิจของญี่ปุ่นสามารถฟื้นตัวได้

“ญี่ปุ่นบอกว่าเขาเป็นประเทศส่งออก ค่าเงินก็เคยแข็งค่าอยู่นานก็อ่อนค่าลง ซึ่งได้ประโยชน์จากการส่งออก แต่ในเรื่องของการนำเข้า ผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เศรษฐกิจของเขาก็ฟื้นขึ้นมาได้ ตอนนี้ถ้ามองเรื่องอะไร ต้องไม่มองด้านเดียว ต้องมองว่าทำอย่างไรให้มีเงินหมุนเวียนและเหมาะสมกับสถานการณ์”

นายพิชัย ยังกล่าวถึงดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ โดยเฉพาะ SME ปัจจุบันเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นก็น่าจะมีความยืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่วนอัตราให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน หรือ LTV ratio นั้น เป็นเรื่องที่ตนก็พยายามพูดเช่นกันว่าให้ผ่อนคลายมาตรการ คิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีข้อมูลเหล่านี้หมดแล้ว น่าจะใช้ข้อมูลนี้ในการพิจารณาด้วย

รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวอีกว่า ตนได้หารือกับ ธปท. และสถาบันการเงินเพิ่มเติม เรื่องการเพิ่มมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนและการปรับโครงสร้างหนี้ ที่มีบางเรื่องสามารถปรับโครงสร้างได้อัตโนมัติ ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ ถือว่าเป็นเป้าหมายที่สำคัญของรัฐบาล

“เรื่องการแก้หนี้ มีอยู่หลายล้านบัญชี ซึ่งขณะนี้ต้องดูว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมได้ อาจเป็นการลดเลยได้หรือไม่ เพราะลูกหนี้ที่เป็นรายย่อยมาก ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร การปรับโครงสร้างหนี้เป็นเรื่องวิธีการในการจะปรับ แต่หลักการยังเหมือนเดิม”  นายพิชัย กล่าว

มี.ค.นี้ ทันแน่! ออกกองทุนใหม่ใน Thai ESG รองรับ LTF

นอกจากนี้ นายพิชัย ยืนยันว่า ในเดือน มี.ค.68 จะออกกองทุนใหม่ เพื่อจะให้โยกเงินจาก กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF มาอยู่ใน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG โดยตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งทำงาน และจะออกมาโดยเร็ว ทั้งนี้หลักการต่าง ๆ ได้หารือและวางแนวทางเรียบร้อยแล้ว

รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวอีกว่า ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO อยู่ตลอดเวลา เพราะเราอยากรู้ว่ามาตรการที่เราทำไปหลายเรื่อง มีผลตอบรับอย่างไร เพื่อจะนำไปปรับปรุงเป็นระยะ

“เราก็ทำไปหลายมาตรการ สุดท้ายแล้วก็จะกลับมาที่เรื่องของความเชื่อมั่น ซึ่งเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมาตรการจูงใจเพิ่มเติมก็ต้องดูตามความเหมาะสม” นายพิชัย กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button