
“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ กังวลมาตรการทรัมป์ คุมลงทุนจีน-เดินหน้ารีดภาษี
“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดร่วง หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศมาตรการควบคุมการลงทุนจากจีน และยังได้ประกาศเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.พ. 68) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วงลงในวันนี้ (25 ก.พ.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการลงทุนจากจีน และยังได้ประกาศเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนี้ การร่วงลงของดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ด้วย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,359.67 จุด ลดลง 417.27 จุด หรือ -1.08% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,716.48 จุด ร่วงลง 625.13 จุด หรือ -2.68% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,345.65 จุด ลดลง 27.38 จุด หรือ -0.81%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.87% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.5%
ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.) ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ เพื่อสั่งการให้คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) จำกัดการลงทุนของจีนในภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งรวมถึงภาคเทคโนโลยีและพลังงาน
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า บันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศพร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จากภัยคุกคามจากปรปักษ์ต่างชาติอย่างเช่นจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ได้สกัดแรงบวกของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดจีน หลังจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ ขานรับมุมมองบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัทดีปซีค (DeepSeek) และข่าวการพบกันระหว่างปธน.สี จิ้นผิง กับบรรดาผู้นำภาคเอกชนของจีน ซึ่งรวมถึงแจ็ก หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา (Alibaba)
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ