BAM ตั้งเป้าจัดเก็บเงินสดปี 68 แตะ 1.78 หมื่นล้าน เร่งรัดหนี้-เสริมโปรโมชัน หนุนรายได้

บล.กสิกรไทยเผย BAM เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ บังคับคดี และกระตุ้นยอดขาย ตั้งเป้าเก็บเงินสดปี 2568 ที่ 17,800 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อน พร้อมรับรู้รายได้จากบริษัทร่วมทุนกับออมสินและ KBANK หนุนผลประกอบการระยะยาว นักวิเคราะห์คงคำแนะนำ "ถือ" มองกลยุทธ์ราคายังท้าทาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.พ. 68) บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ตั้งเป้าหมายการจัดเก็บเงินสด (Cash Collection) ปี 2568 ไว้ที่ 17,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 15,100 ล้านบาทในปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากการเร่งรัดปรับโครงสร้างหนี้ การบังคับคดี และการดำเนินมาตรการส่งเสริมการขาย (Sale Promotion) ตั้งแต่ต้นปี

สำหรับในส่วนของบริษัทร่วมทุน (JV) ระหว่าง BAM และ ธนาคารออมสิน พบว่าการจัดเก็บรายได้จากสินทรัพย์ที่ไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) ดำเนินไปเร็วกว่าคาด ส่งผลให้ BAM สามารถรับรู้กำไรได้ทันที ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยมองว่าการจัดตั้ง JV จะช่วยเสริมศักยภาพทางการเงินและขยายตลาดไปยังสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs)

ด้านบริษัทร่วมทุน (JV) ที่ BAM จัดตั้งร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ได้เริ่มกระบวนการโอนหนี้ชุดแรกเรียบร้อยแล้ว โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกัน (Secured Loan) ซึ่งใช้ระยะเวลาในการบริหารจัดการที่ยาวกว่า ทำให้การรับรู้กำไรจากการดำเนินงานจะทยอยเกิดขึ้นในระยะยาว

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยของ KS ยังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับหุ้น BAM โดยมองว่าบริษัทจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ตั้งราคาขายสินทรัพย์ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องจากระดับ 90% ของราคาประเมินในปลายปี 2566 เหลือ 84% ในปลายปี 2567 นอกจากนี้ เป้าหมาย Cash Collection ที่ 16,000 ล้านบาท ยังถือว่าเป็นการตั้งเป้าหมายที่ค่อนข้างระมัดระวังเมื่อเทียบกับการประเมินของผู้บริหาร BAM

Back to top button