
SPALI โชว์กำไรปี 67 แตะ 6.2 พันล้านบาท เคาะปันผล 0.85 บ.! ตั้งเป้าผุด 36 โครงการใหม่
SPALI เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2567 โกยรายได้รวม 31,985 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,190 ล้านบาท ตอกย้ำแผนธุรกิจปี 2568 รับสัญญาณบวกของคอนโดมิเนียมและแนวราบยังคงเติบโตได้ดี มุ่งขยายตลาดอสังหาฯ รวม 36 โครงการ ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภูมิภาค และเสริมศักยภาพการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.85 บาท ขึ้น XD 7 พ.ค. 68 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พ.ค.68
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2567 ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทาย โดยบริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยศักยภาพทางการเงิน ที่เข้มแข็ง เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 41 โครงการ มูลค่ารวม 52,380 ล้านบาท สร้างยอดขายรวม 26,743 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 9,876 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 16,867 ล้านบาท
อีกทั้งการเติบโตทางผลประกอบการที่ดีเป็นที่น่าพอใจ สามารถทำรายได้รวมอยู่ที่ 31,985 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,989 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากการเปิดตัวโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมที่เจาะกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยทำเลยอดนิยมที่สร้างยอดขายได้ทะยานสูงเป็นลำดับต้นๆ คือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่ ตลอดจน 5 คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ รวมมูลค่ากว่า 16,230 ล้านบาท ยังทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
ศุภาลัย ไอคอน สาทร ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ- รัตนาธิเบศร์ และศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง ส่งผลให้สินทรัพย์เติบโตขึ้น 12% ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโต 5% โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับเพียง 54% ส่วนต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.86% ณ 31 ธ.ค. 2567 และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 11,535 ล้านบาท ณ 31 ธ.ค. 2567 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคต
ทั้งนี้ จากการเติบโตของยอดรายได้และกำไรดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 1.45 บาท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท คงเหลือจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 6 เดือนหลังของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.85 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) 7 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568
นายไตรเตชะ กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2568 บริษัทฯ เสริมศักยภาพการบริหารจัดการมุ่งพัฒนากลยุทธ์เชิงรุก เพื่อผลักดันยอดขายสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่รวม 36 โครงการ มูลค่ารวม 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ และคอนโดมิเนียม 8 โครงการ พร้อมลุยเปิดตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดใหม่ คือ ลพบุรี สุพรรณบุรี เกาะสมุย เนื่องจากมีความมั่นใจว่าจังหวัดดังกล่าวมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เน้นการลงทุนในระยะยาว ส่งผลให้มีสัดส่วนยอดขาย ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 43% ของเป้าการขายรวม
อีกทั้งยังมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย สำหรับไฮไลท์โครงการใหม่ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว Luxury ซีรีส์ใหม่ Romantic Charm กับโครงการศุภาลัย พรีมา วิลล่า ถนนอุทยาน และปักธงต่อเนื่องในจังหวัดภูเก็ตกับโครงการศุภาลัย ไพร์ด อนุสาวรีย์ฯ-ป่าคลอก ซึ่งมียอดขายเปิดตัวกว่า 700 ล้านบาท สะท้อนถึงเรียลดีมานด์ในตลาดที่ยังมีอยู่อย่างมากมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมแคมเปญการตลาดมอบดีลสุดพิเศษที่คุ้มค่าให้กับลูกค้าอีกด้วย
“จากความสำเร็จในปี 2567 ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายและเป็นแรงผลักดันให้บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งขององค์กรกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว” นายไตรเตชะ กล่าวทิ้งท้าย