MENA เปิดงบปี 67 กำไรแตะ 67 ล้านบาท เคาะปันผล 0.03 บ. XD 30 เม.ย.นี้

MENA เปิดงบปี 67 กำไรแตะ 67 ล้านบาท บอร์ดเคาะปันผล 0.03 บาท XD 30 เม.ย.นี้ จ่าย 16 พ.ค.68 วางเป้าเป้ารายได้ปีนี้ “ออลไทม์ไฮ” โตไม่ต่ำกว่า 10% รับธุรกิจโลจิสติกส์ทุกประเภทขยายตัว


นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ  67 ล้านบาท ส่วนรายได้มีจำนวน 834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%  โดยไตรมาส 4/2567 มีกำไรสุทธิออลไทม์ไฮที่ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท

ปัจจัยที่ผลักดันให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในทิศทางบวกได้ เนื่องจากได้รับอานิสงส์การขยายตัวของธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการขยาย Fleet รถรองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป (CJ)

จากผลการดำเนินงานปี 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 22 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 30 เม.ย. 2568 โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 โดยการใช้สิทธิดังกล่าวต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2568 นี้

สำหรับทิศทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2567 ซึ่งธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวขานรับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก Fleet ที่มีอยู่

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมการก่อสร้างปีนี้ เชื่อว่าจะดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ TDM มีแผนในการขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของ CJ ดังนั้นธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าน่าจะสดใสในทิศทางเดียวกัน

Back to top button