โบรกคัด 11 หุ้นเด่น รับ “กนง.” เซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ย 0.25%
“กนง.” ลดดอกเบี้ย 0.25% เซอร์ไพรส์ตลาด ฟากโบรกฯ คัด 11 หุ้นเด่น MTC,AP,ADVANC, MINT, CPALL, BAM, SAWAD, TIDLOR, SCAP, THANI และ SPALI รับอานิงส์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วานนี้ (26 ก.พ.68) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากระดับ 2.25% สู่ 2.00% ต่อปี มีผลทันที หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังอัตราเงินเฟ้อต่ำและภาคอุตสาหกรรมเผชิญการแข่งขันรุนแรง
โดยแถลงการณ์ กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันสูงและปัญหาเชิงโครงสร้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังทรงตัวอยู่ใกล้ขอบล่างของกรอบเป้าหมาย สะท้อนอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ยังคงเผชิญกับภาวะสินเชื่อตึงตัว แม้ภาพรวมสินเชื่อเริ่มทรงตัว แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงเชิงโครงสร้างยังคงได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตามแม้เสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องกับการปรับลดดอกเบี้ย แต่กรรมการ 1 ท่านโหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม โดยให้เหตุผลว่าการลดดอกเบี้ยอาจส่งผลต่อเสถียรภาพการเงินในระยะยาว และควรเก็บกระสุนไว้รับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะส่งผลต่อดัชนี SET ราว 40 จุด และหุ้นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ กลุ่มเช่าซื้อ, อสังหาริมทรัพย์, High Yield และกลุ่มที่มีหนี้สูง
สำหรับกลุ่มเช่าซื้อ เน้น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 58 บาท, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เน้น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 10.40 บาท, กลุ่ม High Yield เน้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 311 บาท และกลุ่มหนี้สูง เน้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 38 บาท และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ราคาเป้าหมายปีนี้ 80 บาท
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กนง.ปรับลดดอกเบี้ย -0.25% เหนือความคาดหมายของตลาด จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่มากกว่าคาดการณ์ และสินเชื่อที่ขยายตัวช้าโดยเฉพาะ SMEs ที่เผชิญปัญหาการแข่งขันเชิงโครงสร้าง
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินการปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. ยังเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในช่วงที่มีการประชุม ภาพระยะสั้น เป็นปัจจัยบวกต่อ SET ผ่านต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่ลดลง (-0.25% เป็นบวกต่อ EPS ราว 1%) และเป็นบวกเชิง Sentiment ต่อ Yield Play เช่น บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR
รวมถึงบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP, บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI, AP, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี หรือ 3BBIF, ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNREIT เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และธนาคาร ขณะที่นักลงทุนยังต้องจับตาท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงถัดไปว่าจะมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่ หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้โอกาสนี้ในการเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง โดยพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มธุรกิจประกอบการตัดสินใจลงทุน