
DITTO ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 20% หลังตุนแบ็กล็อกทะลุ 4 พันล้าน-งานรอคิวต่อสัญญาใหม่
DITTO โชว์ผลงานปี 67 กำไรกระฉูด 458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% บอร์ดใจป้ำไฟเขียวควักกว่า 173 ล้านบาทจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ส่วนปี 68 ตั้งเป้าโตไม่ต่ำ 20% ระบุ Backlog ในมือกว่า 4 พันล้านและงานรอคิวต่อสัญญาใหม่
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผย ว่า ผลประกอบการของ DITTO และบริษัทย่อย ในรอบปี 2567 มีรายได้จากการขายและบริการ 2,432.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 615.74 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 34% มีกำไรสุทธิ 458.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อน ซึ่งในปี 2567 บริษัทฯยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 603.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 196.75 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 48% และมีกำไรสุทธิ 90.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 25.03 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 38%
สำหรับรายได้หลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการของหน่วยราชการต่างๆส่วนใหญ่เกิดจากโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ ระยะที่ 1 คลองหก ธัญบุรี ที่เริ่มมีการดำเนินการในส่วนของงานระบบประกอบอาคารและงานพัฒนาระบบและแอพพลิเคชั่น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 20% ของมูลค่าส่วนงานบริษัทฯ นอกจากนี้ยังมีรายได้จากโครงการอื่นๆ
อีกทั้งรายได้ธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบเอกสาร และระบบการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ จากการขยายงานการให้บริการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ส่วนใหญ่เกิดจากโครงการให้บริการกับกรมศิลปากร ได้แก่ โครงการจัดทำระบบสถานีดิจิทัลศิลปวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากรสำหรับให้บริการประชาชน โครงการจัดทำระบบเนรมิตพิพิธวัฒนธรรม เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเกม ด้านมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย
นายฐกร กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 173,478,399.50 บาท โดยเงินปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฏหมายกำหนด บริษัทฯจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผลในวันที่ 14 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568
“สำหรับแนวโน้มปี 68 เราตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งตอนนี้มี Backlog อยู่ในมือไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท ในปี 68 บริษัทยังมีงานที่ได้รับการต่อสัญญาจำนวนหนึ่ง และยังมีธุรกิจที่เกิดการ Synergy กับกลุ่มพันธมิตรและบริษัทที่เราไปลงทุน ส่งผลให้กลุ่มดิจิทัลมีความแข็งแกร่งอมากขึ้น สร้างโปรดักส์และการบริการใหม่ๆ สู่ตลาดหลายๆอย่าง ซึ่งจะช่วยสร้างพื้นฐานการเติบโตของรายได้ สำหรับกลุ่มที่สร้างรายได้หลักยังเป็นกลุ่มดิจิทัลและกลุ่มวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะดิจิทัล ได้อานิสงค์จากภาครัฐที่กำลังปรับเปลี่ยนเข้าสูระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนกลุ่มกรีนเทค ปีนี้ยังคงเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น” นายฐกร กล่าวทิ้งท้าย