“แพทองธาร” ตอบกระทู้สด! ยันปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เด็ดขาด-ไม่กังวลศึกซักฟอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.พ.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตอบกระทู้สดเป็นครั้งแรก หลังจากเข้ารับตำแหน่ง

นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า การเข้าสภาฯ วันนี้มีการวางแผนตั้งแต่ปีใหม่ แต่บังเอิญตรงกับวันเดียวกับที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนต้องพิจารณาภารกิจอื่นด้วย ไม่เช่นนั้นจะหาวันเข้าสภาฯ ไม่ได้ ก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดี

นายกรัฐมนตรี ไม่กังวลญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าอภิปรายตนเพียงคนเดียว เน้นย้ำว่า ตอบได้ทุกข้อ ส่วนเรื่องใดเกี่ยวกับกระทรวงไหนเป็นรายละเอียดของงาน ก็ต้องให้รัฐมนตรีประจำกระทรวงช่วยตอบ ส่วนคำถามไหนที่เป็นภาพรวมตนก็พร้อมตอบ

ส่วนที่พุ่งประเด็นเรื่องเป็นนั่งร้านให้พ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) นั้น นางสาวแพทองธาร ย้ำว่า ก็เตรียมตอบเท่านั้น ส่วนไม่มีความกังวล ทุกอย่างทำตามกฎหมาย แน่นอนว่าไม่ว่าจะพูดอะไร กระทบต่ออะไรบ้าง ถ้าไม่มีหลักยึดเช่นเรื่องกฎหมาย ก็จะแย่ แต่ถ้ามีหลักยึดว่าต้องทำตามกฎหมาย ตอบได้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมีการตั้งองครักษ์แน่นอน ทุกคนต้องช่วยกัน คนเดียวอาจจะคอแห้งนิดนึง คำถามเยอะ

ส่วนหัวหน้าองครักษ์จะเป็นนายกทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ร้องโอ๊ยขึ้นมาทันที และบอกว่า “ไม่แล้วค่ะ ท่านทักษิณจะเป็นองครักษ์ คงไม่ใช่เรื่องที่มาตอบคำถามในสภาฯ ท่านจะตอบคำถามเมื่อเราถาม เมื่อเราอยากทราบ ถ้าเป็นพ่อจะทำยังไง เดินทางยังไงดี ท่านให้คำปรึกษาอยู่แล้ว 100%”

นายกฯ ประเดิมตอบกระทู้สด

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมสภาฯ ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา ลำดับที่ 3 เรื่องปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ ที่ถามโดย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ทำแล้ว อาทิ จัดศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อบูรณาการทั้งหมด รับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยระงับความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงปิดบัญชีม้า รวม 1.92 ล้านบัญชี

มีมาตรการธนาคารยกระดับการเปิดบัญชีใหม่กับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง และได้ยกร่าง พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ทหารและฝ่ายปกครองซีลพื้นที่ชายแดน จับกุมขบวนการการค้ามนุษย์ที่ผ่านแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตรวจค้นทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ผิดกฎหมาย และการแก้ปัญหาที่ได้ผล คือ การตัดไฟและหยุดส่งน้ำมัน

ทั้งนี้ นายอัครเดช ได้เสนอแนะให้รัฐบาลควบคุมการลงทะเบียนซิมการ์ด ที่พบว่า มีการใช้ชื่อปลอม ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการทางการเงิน จำกัดวงเงินบัญชีธนาคารเพื่อลดความเสี่ยงบัญชีม้า

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จะรับข้อเสนอแนะในการควบคุมซิมม้าจะสั่งการให้กสทช. และกระทรวงดีอี รับไปดำเนินการ รวมถึงความเห็นอื่น ๆ ได้จดไว้แล้ว ส่วนการตัดไฟฟ้าและน้ำมัน สถานที่ทำการของอาชญากรรมข้ามชาติ พบการใช้ไฟน้อยลง มีการย้ายอุปกรณ์และคนออกจากพื้นที่ รวมถึงพบการหยุดก่อสร้างขนาดใหญ่ในฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมาด้วย  และยังได้รับรายงานว่ากลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติปิดตัวลงหรือลดขนาดลง รวมทั้งยังพบการลักลอบนำน้ำมันเข้าประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ไทย จับกุม 17 ครั้ง รวม 8,000 ลิตร โดยในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.68) ตนจะเดินทางไป จ.สระแก้ว เพื่อติดตามสิ่งที่ได้สั่งการดำเนินการไปแล้ว

นายอัครเดช ตั้งคำถามย้ำในมาตรการการปราบปรามผู้อิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์ โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันการเอาจริงเอาจังดำเนินการเด็ดขาดแน่นอน

“ดิฉันขอให้คำมั่นสัญญากับสภาฯ แห่งนี้ว่า ดิฉันจะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง แล้วก็ให้ทุกคนมั่นใจว่าไม่ว่าเป็นใครก็ตาม ตำแหน่งสูงใหญ่อะไรแค่ไหนก็ตาม ถ้าทำผิดในเรื่องนี้นั่นคือการทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยเดือดร้อน เพราะฉะนั้นดิฉันจะจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แล้วก็มั่นใจว่าจะทำเรื่องได้อย่างเต็มที่แน่นอน  ดิฉันเคยพูดไปหลายที่แล้วว่าดิฉันเป็นนายกฯ ของคนไทย ดิฉันต้องดูแลคนไทยก่อน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด แน่นอนว่าเรื่องคอลเซนเตอร์ มีเรื่องยาเสพติดอีกนะคะ ให้ทุกคนมั่นใจว่าเรื่องนี้รัฐบาลเราไม่จบไม่เลิกแน่นอนค่ะ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการตอบกระทู้ดังกล่าว นางสาวแพทองธาร ได้ออกจากห้องประชุมสภาฯ ทำให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขอหารือว่า ในเมื่อนายอัครเดช ตั้งกระทู้ถามสดแล้วนายกรัฐมนตรีมาตอบ แต่เมื่อกำลังจะเข้าสู่วาระกระทู้ถามทั่วไปเรื่องแนวทางแก้ปัญหาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ของนายภูริวรรธก์ ใจสำราญ สส.กทม. พรรคประชาชน ซึ่งหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ เหตุจึงไม่อยู่ตอบ “ท่านก็อยู่สภาฯ แต่ท่านลุกหนี”

ทำให้ในการประชุมสภาฯ ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที สส. ของพรรคเพื่อไทย พากันลุกขึ้นประท้วงและจี้ให้ผู้นำฝ่ายค้านฯ ถอนคำว่า “นายกฯ ลุกหนี”

ขณะที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ชี้แจงกับนายณัฐพงษ์ว่า นายกฯ มีภารกิจ วันนี้มาตอบกระทู้สดอันเดียวก็ยังดีต่อไปท่านก็จะมาอีก แต่ว่ากระทู้ถามทั่วไปมีหนังสือไปล่วงหน้าและท่านได้มอบหมายผู้เกี่ยวข้องโดยตรง คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เตรียมข้อมูลมาตอบเต็มที่แล้ว ก็ขอเข้าสู่วาระ เอาไว้ครั้งต่อไป