ตลท.หารือ “คลัง” ดันโครงการ Jump+ ขับเคลื่อน “บจ.” โตแกร่ง หนุนตลาดทุนไทย

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ นำทีมผู้บริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เข้าพบ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือแนวทางเพิ่มความเข้มแข็งของบริษัทจดทะเบียนไทยผ่านโครงการ “Jump+” ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานพันธมิตรจะสนับสนุนเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล การให้คำปรึกษา และเพิ่มการรับรู้เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจ

สำหรับโครงการ Jump+ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้แผนกลยุทธ์ปี 2568-2570 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และเพิ่มมูลค่าตลาดทุนไทยอย่างยั่งยืน โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญกับการขยายตัวของธุรกิจ เพิ่มมูลค่ากิจการในช่วง 3 ปีข้างหน้า และสื่อสารข้อมูลกับนักลงทุนมากขึ้น เพื่อสร้างความสนใจและดึงดูดเม็ดเงินลงทุน

โดย Jump+ มีแนวคิดหลักในการสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในด้านกำไรสุทธิ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อโครงการ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำหน้าที่ช่วยเหลือ บจ. ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารข้อมูลกับนักลงทุน การวิเคราะห์แผนธุรกิจ และการขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับกระทรวงการคลัง

ด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้โครงการ Jump+ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน หนึ่งในนั้นคือ การยกเว้นภาษีสำหรับกำไรส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้นจากแผนธุรกิจภายใต้โครงการ เช่น หากบริษัท A มีกำไรปกติ 1,300 ล้านบาท และสามารถสร้างกำไรเพิ่มขึ้นจากแผนธุรกิจที่ดำเนินการภายใต้โครงการ Jump+ ได้อีก 300 ล้านบาท กำไร 300 ล้านบาทนี้จะได้รับการยกเว้นภาษีในช่วง 3 ปีแรก ซึ่งเป็นมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้บริษัทมุ่งเน้นการขยายตัวของธุรกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มองว่าการสร้างแรงดึงดูดให้ตลาดหุ้นไทยจำเป็นต้องเริ่มจาก พื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งหมายถึงการเติบโตของกำไร บจ. หากกำไรเพิ่มขึ้น ย่อมดึงดูดกระแสเงินลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงผลักดันให้โครงการ Jump+ เกิดขึ้น เพื่อเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนการเติบโตของ บจ. และตลาดทุนโดยรวม

ส่วนแผนยุทธศาสตร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้าของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้ความสำคัญกับ 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การสร้างโอกาสการเติบโต การพัฒนาเพื่อความทั่วถึง และการพัฒนาคนและอนาคตของตลาดทุน ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพของ บจ. และทำให้ตลาดทุนไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยอาจไม่ดึงดูดนักลงทุนเท่าที่ควร เห็นได้จากอัตราส่วน P/BV (Price-to-Book Value) ของหุ้นไทยที่กว่า 50% อยู่ต่ำกว่า 1 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายในการเพิ่มมูลค่าตลาดทุนไทย โครงการ Jump+ จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้ โดยเปิดโอกาสให้ บจ. เข้าร่วมโครงการโดยสมัครใจ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้การสนับสนุนผ่านการส่งเสริมพัฒนาการด้านการดำเนินงาน การผลักดันให้ธุรกิจเติบโตตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) รวมถึงการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล และการนำ AI มาช่วยให้คำปรึกษา นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มช่องทางสื่อสารกับผู้ลงทุนเพื่อให้ บจ. เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์จากตลาดหลักทรัพย์ฯ หน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรต่าง ๆ

สำหรับเป้าหมายของโครงการ Jump+ ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนด KPI (Key Performance Indicator) ที่ชัดเจนเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายของดัชนีตลาดหลักทรัพย์หรือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่แน่ชัด แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งเน้นไปที่ การสร้างการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนตลาดทุนไทยให้ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง