
นายกฯ “แพทองธาร” รับทราบรายงาน ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน หลังถูกกักตัวอยู่ไทย 11 ปี
นายกรัฐมนตรี รับรายงานโดยตรงจากคณะผู้แทนไทย กรณีส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับมณฑลซินเจียง หลังรอคอยกว่า 11 ปี รัฐบาลไทยยืนยันดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมติดตามความเป็นอยู่ต่อเนื่องภายใน 30 วัน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานในวันนี้ (1 มี.ค.68) โดยตรงจากคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง เกี่ยวกับภารกิจนำชาวอุยกูร์ 40 คน เดินทางสู่มาตุภูมิ ที่มณฑลซินเจียง ประเทศจีน หลังต้องรอคอยถึง 11 ปี ซึ่งถือเป็นการส่งตัวกลับครั้งสำคัญหลังการรอคอยยาวนาน
ภารกิจนี้ถูกขนานนามว่า “11 Year Mission Possible” โดยชาวอุยกูร์กลุ่มนี้เดินทางถึงเมืองคัชการ์ มณฑลซินเจียง ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเกิดของพวกเขามากที่สุด ก่อนถูกจัดสรรให้เดินทางต่อไปยังเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาค โดยรัฐบาลจีนได้จัดยานพาหนะเพื่อส่งกลับสู่อ้อมกอดครอบครัว
เมื่อเดินทางถึงชาวอุยกูร์กลุ่มดังกล่าวได้รับการตรวจสุขภาพ ก่อนถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามระยะทางจากเมืองคัชการ์ กลุ่มแรกอยู่ห่างออกไปไม่เกิน 140 กิโลเมตร ขณะที่กลุ่มที่ 2 ต้องเดินทางต่อไปกว่า 1,000 กิโลเมตร เนื่องจากซินเจียงมีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า
ในช่วงบ่ายวานนี้ คณะผู้แทนไทยลงพื้นที่อำเภอเจียซือ ห่างจากเมืองคัชการ์ 140 กิโลเมตร เพื่อสังเกตการณ์การกลับบ้าน ของชาวอุยกูร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกับครอบครัว บางคนได้พบหลานเป็นครั้งแรกในชีวิต หลายคนที่พูดภาษาไทยได้กล่าว “ขอบคุณประเทศไทยที่ดูแลมาตลอด 10 ปี”
ขณะที่นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. ยืนยันว่า ไทยใช้เวลากว่า 10 ปี ในการเจรจากับจีนเพื่อรับประกันความปลอดภัยของชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ จนกระทั่งรัฐบาลจีนให้หนังสือรับรองอย่างเป็นทางการ ในช่วงการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรี ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน
ก่อนการส่งตัวกลับ รัฐบาลจีนได้ส่งคลิปวิดีโอของครอบครัวชาวอุยกูร์ในบ้านเกิดแสดงให้เห็นถึงชีวิตที่ดีขึ้นในซินเจียง จนทำให้หลายคนอยากเดินทางกลับ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ไทยยังนำหนังสือรับรองจากจีนมาแปลเป็นภาษาอุยกูร์ เพื่อให้ชาวอุยกูร์ในห้องกักดู จนนำมาสู่การเดินทางกลับโดยสมัครใจในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะผู้แทนไทยจะเดินทางกลับในวันอาทิตย์นี้ พร้อมสรุปรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบภายใน 7วัน รัฐบาลไทยจะติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 40 คนหลังเดินทางกลับ เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิเสรีภาพตามข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ
“รัฐบาลไทยยืนยันความโปร่งใส โดยวางแผนตรวจเยี่ยมชาวอุยกูร์อีกครั้งภายใน 15 – 30 วัน พร้อมมีแนวคิดเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์” นายจิรายุ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับบ้านเกิดครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลขององค์กรสิทธิมนุษยชน และนานาชาติ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งเคยเรียกร้องให้ไทยดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าชาวอุยกูร์จะไม่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหลังการส่งตัวกลับ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยืนยันว่าได้ดำเนินการบนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชน และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากรัฐบาลจีน