
กต. หารือ “จีน-เมียนมา” ลุยปราบ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ไม่จบไม่เลิก!
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ร่วมหารือรัฐมนตรีจีน เมียนมา มุ่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ำสานต่อมาตรการตัดไฟชายแดน และขยายผลหลังคัดกรองเหยื่อร่วมกัน พร้อมประสาน IOM ช่วยดูแลก่อนส่งกลับประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (1 มี.ค.68) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ หรือ Online Scam ภายหลังได้หารือ 3 ฝ่ายไตรภาคี ร่วมกับ นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน และ นายอ่อง จ่อ จ่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเมียนมาว่า การแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ หรือ online scam ต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ไม่สามารถแก้ไขให้สำเร็จได้โดยลำพัง พร้อมยืนยันว่า การปราบคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้ หากไม่จบ ก็จะไม่เลิก ตามนโยบายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายมาริษ ยังได้ย้ำถึงการหารือไตรภาคี ร่วมกับ นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน และนายอ่อง จ่อ จ่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเมียนมา เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้เน้นไปที่ 2 ประเด็นหลัก คือ การปราบปราม และการส่งผู้ตกเป็นเหยื่อกลับประเทศต้นทาง
ในด้านการปราบปรามนั้น นายมาริษ ย้ำว่า ไทยจะยังคงมาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาต่อไป ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ยกระดับความร่วมมือด้านการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลจากการคัดกรองเหยื่อ เพื่อขยายผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรม ผ่านกลไกการประสานงานระหว่างกัน 3 ประเทศ
โดยผู้แทนด้านความมั่นคงของสถานทูตจีน สถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยและหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย ทั้งกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการใช้โมเดลนี้ ขยายผลไปยังจุดอื่น ๆ ที่มีปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ด้วย
สำหรับการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศต้นทางนั้น นายมาริษ ชี้แจงว่า สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นชาวจีนซึ่งเป็นส่วนใหญ่ ให้ดำเนินการได้ทันทีเพราะมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้วและทางการจีนมีความพร้อม และกลุ่มสัญชาติอื่นๆ ที่จะต้องมีการพิสูจน์สัญชาติโดยเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจของประเทศนั้นๆ ฝ่ายเมียนมาเห็นชอบให้เจ้าหน้าที่สถานทูต หรือสถานกงสุลต่างๆ ประเทศประจำประเทศไทย เข้าไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติที่เมืองเมียวดีได้ เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทางและเพื่อประโยชน์ในการเตรียมการส่งบุคคลที่เป็นพลเมืองของตนเองกลับประเทศต้นทางผ่านไทยอย่างราบรื่น
ขณะที่ กรณีคนชาติที่ถูกส่งข้ามมาฝั่งไทยก่อนหน้านี้จำนวนหนึ่ง และยังอยู่ระหว่างการประสานงานให้มีการส่งกลับประเทศต้นทางนั้น ฝ่ายไทยได้หารือกับองค์การระหว่างประเทศ อาทิ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป รวมถึงที่ประชุมได้รับทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับการดูแลผู้ตกเป็นเหยื่อที่รอการส่งกลับประเทศต้นทางจำนวนมากในฝั่งเมียวดี และหารือกันเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มบุคคลดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมด้วย