LEO กวาดรายได้ปี 67 แตะ 1.6 พันลบ. บอร์ดเคาะปันผล 0.14 บ. ขึ้น XD 13 มี.ค.นี้

LEO เปิดรายได้รวมปี 67 เติบโต 19% แตะ 1.6 พันล้านบาท อานิสงส์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางรางในประเทศ ฟากบอร์ดเคาะจ่ายปันผล 0.14 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มี.ค. และจ่ายปันผล 14 พ.ค.68


นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน1,632.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 259.6 ล้านบาท คิดเป็น19% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ (งบการเงินรวม) อยู่ที่ จำนวน 47.6  ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 83.4 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทได้รักษาความสามารถในการทำผลงานให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกของปี 2567  จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ LEO ไปร่วมลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และหลายบริษัทยังอยู่ในสภาวะการขาดทุน จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯที่แสดงในงบการเงินรวมต้องรับรู้ผลการขาดทุนจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม และทำให้กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ลดลง” นายเกตติวิทย์ กล่าว

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 398.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 และมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 13.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 3/2567 และถือเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี 2567  บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นไนไตรมาส 4/2567 จำนวน 121.0 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2567 และไตรมาส 4/2566  เมื่อเปรียบเทียบปี 67 กับปีงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 14.3 ล้านบาท คิดเป็น 3% และ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่30% ในไตรมาส 4/2567 เมื่อเปรียบเทียบกับ 24% ในไตรมาส 3/2567

อนึ่งในปี 2567 บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น  การขนส่งสินค้าทางรางภายในประเทศภายใต้บริษัท Sritrang LEO Multimodal Logistics ซึ่งมีรายได้ในปี 2567 ประมาณ 140 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ได้มากกว่า 70% การขนส่งทางรางไปยังประเทศจีน-ลาว ของบริษัท LaneXang Express มีการเติบโตของรายได้ถึงประมาณ 5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2566 และการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนของบริษัท LEO Sourcing & Supply Chain ที่มีทั้งนี้ การเติบโตของรายได้มากกว่าปี 2566 ถึงเกือบ 140%

โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียนที่มีการส่งออกมากขึ้นในช่วงปลายปี 2567 นอกจากนั้นธุรกิจใหม่อื่นๆ ได้แก่ โครงการ Self-Storage และ Wine Storage สาขาที่ 3 ที่ถนนพระราม 4 ที่บริษัทฯ ได้เริ่มรับรู้รายได้ และ การให้บริการการจัดการโลจิสติกส์และกระจายสินค้า ของบริษัท Advantis LEO ที่มีการเพิ่มขึ้นของรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเพิ่มของรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่นี้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics และบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าธุรกิจใหม่ๆเหล่านี้จะสร้างการเติบโตของกำไรขั้นต้นและผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่องให้เติบโตอย่างต่อเนื่องใน 1-2 ปีข้างหน้า

บริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการบริหารจัดการบริษัทให้เป็นไปตามแผน ชูกลยุทธ์ LEO Go Green” ยกระดับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรอย่างความยั่งยืน พร้อมต่อยอดธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics สร้างรายได้เพิ่มจากการบริการจัดการด้าน Warehouse / Distribution Center ดันผลงานปี 2568 ให้มีการเติบโต 20-25% และมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics เพิ่มขึ้นมาเป็นอย่างน้อย 30-35% ของภาพรายได้รวม และทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทสูงขึ้น

พร้อมกันนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลของปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.14 บาท/หุ้น เป็นจำนวนเงินรวม 44.1 ล้านบาท จากกำไรสุทธิของบริษัทใหญ่ที่ 83.4  ล้านบาท และกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 พฤษภาคม 2568

Back to top button