
“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ หลังทรัมป์เดินหน้ารีดภาษี “เม็กซิโก-แคนาดา” ตามกำหนด
“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดลบ หลังทรัมป์เดินหน้ารีดภาษีสินค้านำเข้าเม็กซิโก-แคนาในอัตรา 25% มีผลบังคับใช้ 4 มี.ค.68 ตามกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วงลงในวันนี้ (4 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาตามแผนที่วางไว้
โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,532.01 จุด ลดลง 253.46 จุด หรือ -0.67% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 22,678.25 จุด ลดลง 328.02 จุด หรือ -1.43% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,300.50 จุด ลดลง 16.43 จุด หรือ -0.50%
ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.84% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 0.21% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารที่ 4 มี.ค. ตามกำหนด เนื่องจากเขาเชื่อว่าทั้งสองประเทศไม่ได้ดำเนินการมากพอในการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย เช่น เฟนทานิล เข้าสู่สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่ามาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ซึ่งจะใช้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ นั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.ตามกำหนดเช่นกัน พร้อมกับยืนยันว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิมที่เรียกเก็บอยู่แล้ว 10% เพื่อลงโทษจีนที่ยังคงขนส่งเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ
ด้านนักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีนอย่างใกล้ชิด ก่อนที่การประชุมสองสภา (Two Sessions) ของจีนซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้