“แพทองธาร” ไม่ปิดโอกาสต่อสัญญา “MotoGP” สั่งศึกษาความคุ้มค่าเทียบ F1

นายกฯ “แพทองธาร” สั่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาศึกษารายละเอียดสัญญาการจัดการแข่งขัน MotoGP ในประเทศไทย พร้อมยืนยันยังมีโอกาสต่อสัญญา ด้าน “เนวิน” ขอบคุณรัฐบาล ขณะที่ กกท. เผยกำลังเจรจา MotoGP- Formula 1


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันที่ 3 มี.ค.68 เกี่ยวกับการต่อสัญญาการจัดการแข่งขัน MotoGP ในประเทศไทย โดยกล่าวว่าได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปศึกษาในรายละเอียดของสัญญาเพิ่มเติม โดยยืนยันว่าการต่อสัญญายังมีความเป็นไปได้ แต่ต้องมีการเจรจาอีกครั้ง และพิจารณาผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับ

“ทุกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่ จะต้องดำเนินการต่อไป แต่หากโครงการใดไม่เกิดประโยชน์ หรือขาดทุน ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การสนับสนุนงบประมาณได้ตรงจุด” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ส่วนของกรณีที่มีการเชื่อมโยง MotoGP กับการเมือง เนื่องจากสนามแข่งขันเป็นของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า แม้จะเป็นธุรกิจของเอกชน แต่สิ่งสำคัญคือประเทศจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากการจัดการแข่งขันนี้ ซึ่งภาครัฐและเอกชนจะต้องร่วมมือกันในเชิงธุรกิจและประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับ

“…จะมองว่าเป็นการเมืองก็ได้ แต่ดิฉันขอมองแบบเรื่องธุรกิจและเงินว่าเงินเข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ภายหลังจากการแถลงของนายกรัฐมนตรี นายเนวิน ชิดชอบ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ลุงเนวิน” โดยขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะพิจารณาต่อสัญญาการจัดการแข่งขัน MotoGP และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปศึกษาผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการจัดงาน ซึ่งยืนยันว่าในขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะต่อสัญญาและยังไม่ปิดโอกาส

ก่อนหน้านี้ นายเนวิน ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียว่า รู้สึกเสียดายหากการจัดการแข่งขัน MotoGP จะสิ้นสุดในปี 2026 หากรัฐบาลไม่ต่อสัญญา

นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ออกมาชี้แจงว่าข่าวที่ระบุว่า กกท. จะไม่ต่อสัญญาการจัดการแข่งขัน MotoGP ในปี 2026 เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุยและยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ

นายก้องศักด กล่าวด้วยว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุยกับดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ MotoGP และได้รับคำชมจากดอร์น่าเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันของประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดในโลก โดยการแข่งขัน MotoGP ปีนี้ทุบสถิติในหลายมิติ ทั้งในด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผู้ชมที่สูงขึ้นและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ผู้ว่าการ กกท. ยังกล่าวถึงโอกาสในการนำการแข่งขัน Formula 1 (F1) เข้ามาจัดในประเทศไทย พร้อมระบุว่า กกท. กำลังพิจารณาข้อเสนอในการจัดทั้ง 2 รายการ ซึ่งหากเป็นไปได้ก็จะต้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทร่วมลงทุนอย่างมาก โดยรัฐบาลจะไม่สามารถลงทุนฝ่ายเดียวได้

นายก้องศักด กล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับการต่อสัญญา MotoGP จะต้องนำข้อมูลและผลประโยชน์ต่าง ๆ มาพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะในด้านตัวเลขและผลกระทบทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน หากประเทศไทยไม่ตัดสินใจในเร็ว ๆ นี้ ดอร์น่าก็อาจต้องไปเจรจากับประเทศอื่น ๆ ที่สนใจเป็นเจ้าภาพแทน

อย่างไรก็ตามคำยืนยันจากรัฐบาลและ กกท. ยังคงเปิดโอกาสให้การต่อสัญญา MotoGP ในประเทศไทยยังคงมีความเป็นไปได้ แต่ต้องรอดูผลการศึกษาข้อมูลและการตัดสินใจจากผู้มีอำนาจในที่สุด

Back to top button