จีนตอบโต้! ขึ้นภาษี “ข้าวโพด-ถั่วเหลือง” สหรัฐ 15%

จีนเดินหน้าตอบโต้สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้าเกษตรนำเข้า 15% พร้อมควบคุมการส่งออกไปยัง 15 บริษัทอเมริกัน สะท้อนความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่มีท่าทีจะคลี่คลาย


ผู้สื่อข่าวรายงาน กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จีน ประกาศในวันนี้ (4 มีนาคม 2568) ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 15% สำหรับสินค้านำเข้าบางรายการจากสหรัฐฯ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม นอกจากนี้ จีนยังควบคุมการส่งออกสินค้าไปยังบริษัทสหรัฐฯ จำนวน 15 แห่ง เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐฯ ออกมาตรการภาษีใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีน

แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังจีนระบุว่า ภาษีที่เพิ่มขึ้นจะเน้นไปที่สินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐฯ ไปยังจีน ขณะเดียวกัน บริษัทสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการส่งออกของจีน ได้แก่ Leidos และ General Dynamics Land Systems

กระทรวงพาณิชย์จีนแสดงจุดยืนว่า จีนไม่ยอมรับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ และเตือนว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ถอนมาตรการภาษีออก

ในฝั่งของสหรัฐฯ ทำเนียบขาวยืนยันว่าการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ทำให้อัตราภาษีรวมเพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายในเดือนเดียว ก่อนหน้านี้ จีนเคยตอบโต้สหรัฐฯ ในลักษณะเดียวกัน โดยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าพลังงานจากสหรัฐฯ และขึ้นบัญชีดำบริษัทอเมริกัน 2 แห่งในรายชื่อบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจทำให้บริษัทเหล่านี้ถูกจำกัดการทำธุรกิจในจีน

ข้อมูลจาก Allianz Research ระบุว่า ในปี 2566 สินค้าเกษตรเป็นสินค้าส่งออกหลักของสหรัฐฯ ไปยังจีน โดยเฉพาะถั่วเหลือง ซึ่งคิดเป็น 1.2% ของการส่งออกทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 22,300 ล้านดอลลาร์ สินค้าพลังงาน เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีสัดส่วน 1% หรือมูลค่า 19,300 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยารักษาโรคอยู่ในอันดับสามที่ 0.8% หรือมูลค่า 15,600 ล้านดอลลาร์

การตอบโต้ทางภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ครั้งนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นักลงทุนกำลังจับตามองผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานและตลาดการเงินในระยะต่อไป

Back to top button