เปิดโผ 54 บจ. กำไรปี 67 โตเกิน 100% JTS จัดหนัก 102 เท่าตัว

54 บจ.โชว์กำไรปี 67 เติบโตเกิน 100% จากปีก่อน จัดหนัก JTS, BBGI, BKD, VNG, TC, AAV, TGH, STGT, TFM, RCL และ AIE สร้างเซอร์ไพรส์ รายงานกำไรปี 67 โตเกิน 500%


บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งประเทสไทย (SET) ได้ประกาศผลประกอบการปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ออกมาครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่ามีจำนวน 54 บริษัท กวาดกำไรสุทธิเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 100% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ

ขณะเดียวกันเมื่อเจาะลึกไปอีกพบ 11 บริษัท กวาดกำไรได้แข็งแกร่ง ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนเกิน 500% ได้แก่ JTS, BBGI, BKD, VNG, TC, AAV, TGH, STGT, TFM, RCL และ AIE ซึ่งมีรายละเอียดสนับสนุนผลการดำเนินงาน ดังนี้

บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 593.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,295.22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.71 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากธุรกิจโทรคมนาคม รายได้เพิ่มขึ้น 8.31% จากการให้บริการวงจรเช่าในและต่างประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ เติบโตแรง 79.88% จากราคาบิทคอยน์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 215.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,080.13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9.87 ล้านบาท ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล (B100) อยู่ที่ 451 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 63% ส่วน เอทานอล ปริมาณการจำหน่าย อยู่ที่ 200 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 38%

บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 165.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 888.33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16.76 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากค่าตกแต่งงานโครงการ ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานตกแต่งโรงแรม ที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากการท่องเที่ยว และกลุ่มบ้านเศรษฐี ในขณะที่บริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนบริการและต้นทุนจากการขายรวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 347.02 ล้านบาท เติบโตกว่า 302% จากปีก่อน

บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 230.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 763.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 26.66 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจาก ต้นทุนขายลดลงและบริษัทและบริษัทย่อยมีกําไรจากการจําหน่ายทรัพย์สินรวม 274.0 ล้านบาท

บริษัท ทรอปิคอลแคนนิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TC รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 329.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 657.63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 43.48 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก รายได้รวม 6,596.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.35% จากปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรของ TC เติบโตอย่างก้าวกระโดด มาจากยอดขายในกลุ่ม อาหารสัตว์เลี้ยงและปลาทูน่า ที่ขยายตัวตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนในเครื่องจักรและกระบวนการผลิตใหม่ รวมมูลค่ากว่า 222.1 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

 

 

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 3,477.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 646.63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 465.82 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 49,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน การเติบโตของผลประกอบการได้รับแรงหนุนจาก ความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น หลังการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10% แตะระดับ 20.80 ล้านคน โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 91% นอกจากนี้ บริษัทยังมีการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นเส้นทางบินที่ให้ผลตอบแทนสูง และปรับกลยุทธ์ด้านต้นทุมน้ำมันให้มีเสถียรภาพ

บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 384.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 595.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 55.33 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้จากสัญญาเช่าดำเนินงาน เช่าซื้อ และเช่าการเงิน อยู่ที่ 4,921 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.80% และมีรายได้จากการลงทุน 2,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.60% ขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัย อยู่ที่ 9,945 ล้านบาท ลดลง 12.90% และบริษัททีรายได้อยู่ที่ 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.20%

บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 995.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 551.87% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 152.69 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจาก รายได้จากการขายรวม 25,002.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.10% จากปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตทั้งในด้านปริมาณและราคาขายถุงมือยาง โดยบริษัทฯ ทำสถิติยอดขายสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งในรอบ 36 ปี ในปี 67 มีปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 38,549 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 22.8% จากปีก่อน จากการเติบโตในทุกผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ถุงมือยางธรรมชาติแบบมีแป้ง (NRPD) เพิ่มขึ้น 11.9% จากปีก่อน, ถุงมือยางธรรมชาติแบบไม่มีแป้ง (NRPF) เพิ่มขึ้น 11.1% จากปีก่อน, ถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) ขยายตัวสูงถึง 67.3% จากปีก่อน

บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 535.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 512.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 87.37 ล้านบาท โดยเป็นผลจากความสามารถทำยอดขายได้ 5,365 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้น 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129% จากปีก่อนหน้า ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งนี้เป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุนการผลิต การปรับกลยุทธ์การขายสินค้า และการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 9,170.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 510.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,501.90 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมีรายได้จากการเดินเรือ 8,828 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 34% จากทั้งปริมาณการขนส่งและอัตราค่าระวางที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยปี 67 มีปริมาณการขนส่งจำนวน 2,450,000 ตู้ เพิ่มขึ้น 263,631 ตู้ หรือ 12% ส่วนอัตราค่าระวางเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นโดยมีอัตราค่าระวางเฉลี่ยปี 67 อยู่ที่ 404 เหรียญต่อตู้ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 66 ซึ่งมีอัตราค่าระวางเฉลี่ยอยู่ที่ 343 เหรียญต่อตู้ ขณะที่ ต้นทุนการเดินเรือเพิ่มขึ้น 10%นอกจากนี้ในปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการกลับการด้อยค่าของเรือเดินทะเลจำนวน 847 ล้านบาท

บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 241.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 500.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 40.27 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจาก รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 8,238.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.22% จากปีก่อนที่มีรายได้ 8,221.11 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถลดต้นทุนขายสินค้าและบริการลง 179.35 ล้านบาท หรือ 2.22% จากปีก่อนซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ราคาขายจะผันผวน

ขณะที่ จากการประกาศผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ ได้ออกมาประมาณการผลการดำเนินงานในปี 2568 โดยคาดว่ากำไรจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง STGT แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 10 บาท ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า ได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ถุงมือยางทั่วโลกที่ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว ขณะที่มองว่าการส่งออกถุงมือไปยังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 จนถึงปัจจุบันเนื่องจากการยกเลิกภาษีนำเข้าถุงมือทางการแพทย์จากจีน ซึ่งมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับ STGT ในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขาย
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงขาลงอาจเกิดจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะยุโรป เนื่องจากผู้ผลิตถุงมือจีนอาจเปลี่ยนทิศทางการขายจากสหรัฐฯ ไปยังประเทศนอกสหรัฐฯ ซึ่งอาจกดดันราคาถุงมือ NBR ในตลาดเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบต่อ STGT จะจำกัด เนื่องจากบริษัทฯ มุ่งเน้นการขายถุงมือยางธรรมชาติในตลาดเหล่านั้น

Back to top button