
หุ้นยุโรปร่วงแรง! DAX ปรับลง 820.21 จุด หลัง “ทรัมป์” เดินหน้าเทรดวอร์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดวันอังคารต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ STOXX 600 ดิ่ง 551.07 จุด ขณะที่ DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ร่วงแรง 820.21 จุด หลัง “ทรัมป์” ประกาศมาตรการภาษีนำเข้า นักลงทุนกังวล “อียู” อาจโดนกำแพงภาษีอีก
ตลาดหุ้นยุโรปเผชิญแรงขายหนักในวันอังคาร (4 มี.ค. 68) หลังจากสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้า ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและสร้างแรงกดดันต่อตลาดทั่วโลก
หลังสหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ทำให้นักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงที่ยุโรปอาจถูกเก็บภาษีด้วย
- ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 551.07 จุด ลดลง 12.06 จุด (-2.14%)
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 8,047.92 จุด ลดลง 151.79 จุด (-1.85%)
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 22,326.81 จุด ลดลง 820.21 จุด (-3.54%)
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,759 จุด ลดลง 112.31 จุด (-1.27%)
หุ้นที่ได้รับผลกระทบมี 4 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
- ยานยนต์ ร่วงหนักสุด (-5.4%) นำโดยหุ้น Stellantis -2%, BMW -5.9%, Ferrari -4.4%
- การเงิน-ธนาคาร ร่วง 3.7%-3.8%
- พลังงาน ร่วง 4.2% จากราคาน้ำมันที่ลดลง
- สินค้าหรู LVMH, Hermes, Kering ปรับลง 2%-4% จากมาตรการตอบโต้ภาษีของจีน
นอกจากหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบหนัก ตลาดยังจับตาว่าสหภาพยุโรป หรือ อียู อาจเผชิญมาตรการภาษีเพิ่มเติม หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่งเสนอให้เก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากยุโรป
ส่วนหุ้นบวกสวนตลาด อาทิ Lindt & Spruengli บริษัทขนมช็อกโกแลตจากสวิส (+8.2%) กำไรดีกว่าคาด ขณะที่หุ้นของ abrdn (+7.7%) และ Thales (+2.5%) ราคาบวกขึ้นจากรายงานผลประกอบการแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และการตอบโต้จากจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงต่อไป