
“ชัยยศ” มอง SET รีบาวด์! แนะลงทุน 2 หุ้นเด่น ERW-BTS รับปัจจัยบวกเฉพาะตัว
“ชัยยศ” มอง SET รีบาวด์! แนะลงทุน 2 หุ้นเด่น ERW-BTS รับปัจจัยบวกเฉพาะตัวนายชัยยศ จิวางกูร มอง SET รีบาวด์! กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ 2 หุ้นเด่น ERW ลุ้นอานิสงส์มาตรการ “เที่ยวคนละครึ่ง” พ่วงดันธุรกิจ HOP INN เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายพอร์ตธุรกิจโรงแรม แนะซื้อเป้า 4 บาท ฟาก BTS จ่อรับเงิน 1.2 หมื่นล้าน “กทม.” ล้างหนี้สายสีเขียวเดือนนี้ แนะซื้อเป้า 6.50 บาท
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (5 มี.ค.2568) ว่า ทิศทางของดัชนี SET Index วันนี้น่าจะเกิดสัญญาณการรีบาวด์จากประเด็นทางสหรัฐเตรียมเข้าไปพูดคุยกับทางด้าน เม็กซิโกและแคนาดาอีกรอบในเรื่องการผ่อนผันในเรื่องภาษี ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียรีบาวด์ขึ้นมาได้ค่อนข้างดี ดังนั้นเชื่อว่าในส่วนตลาดหุ้นไทยจะเห็นภาพของการรีบาวด์ตามทิศทางตลาดภูมิภาค
ส่วนปัจจัยภายในประเทศถ้ามองในเรื่องของตัวเศรษฐกิจตัวเลข GDP ของไทยมีโอกาสที่จะขยับตัว เพราะฉะนั้นภาพรวม ๆ ไม่มีอะไรน่าห่วง เพียงแต่การปรับตัวลงของภาวะตลาดเป็นลักษณะของการลดความเสี่ยงของต่างชาติ และเมื่อเข้าไปดูพอร์ตนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปีขายสุทธิออยู่ประมาณ 20,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแรงขายต่างชาติที่ออกมาไม่ได้กลัวหุ้นไทย แต่ลงตามทิศทางตลาดเพื่อนบ้าน เนื่องจากถ้าไปดู GDP ของฟิลิปปินส์อยู่ประมาณ สัก 6-7% ส่วนอินโดนีเซียประมาณ 5-6% ในขณะที่ไทยเกือบ 3% ดังนั้นการที่ GDP ของไทยต่ำกว่าเพื่อนบ้านทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องลดความเสี่ยงในตลาดเกิดใหม่และจะลดสัดส่วนการลงทุนในไทยมากกว่าประเทศอื่น
นอกจากนีี้ LTF ที่ขายออกมาตั้งแต่ต้นปีประมาณ 8,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นมีฝั่งเดียวที่ซื้ออยู่คือรายย่อย SET Index ก็รับไม่ไหวจึงเป็นภาพให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาต่อเนื่องประกอบกับหุ้นรายตัว AOT ,DELTA กระทบกับตัวพื้นฐานเลยทำให้ Index ถูกกลุ่ม Market Cap ใหญ่ ๆ กดดัชนีลงมาอีกทาง
ดังนั้นมองว่าช่วงนี้แนวรับที่สำคัญดัชนีคือ 1,180 จุด เป็นแนวรับในช่วงสถานการณ์โควิด หากหลุดแนวนี้อาจเกิดการทำ New Low อย่างไรก็ตามสถานการณ์ช่วงนี้ต้องติดตามคือ Trade War หากการเจรจาระหว่างเม็กซิโกและแคนาดาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุน อีกทั้งการลงทุนช่วงนี้ก็ถือว่าแวลูชันไม่แพง เพียงแต่ว่าความมั่นใจนักลงทุนยังไม่กลับมาเต็มที่ การลงทุนจึงแนะเล่นรีบาวด์ แต่หากไม่มีข่าวคราวใด ๆ ควรให้ดัชนียืนเหนือระดับ 1,200 จุดเสียก่อน ซึ่งจะเป็นสัญญาณการรีบาวด์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยหุ้นแนะนำสำหรับการรีบาวด์ คือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW โดยได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และมีสัดส่วนโรงแรมมากสุด และรอลุ้นมาตรการ “เที่ยวคนละครึ่ง” และตรียมแผน Unlock Value โรงแรมในส่วน HOP INN เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มความสามารถในการขยายโรงแรมในกลุ่มแนะนำราคาพื้นฐาน 4 บาท
ส่วนอีกตัว บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ประโยชน์จากการจ่ายหนี้ที่ค้างชำระจาก “กทม.” ประมาณ 12,000 ล้าน ตรงนี้เนี่ยเชื่อว่าจะทำให้ D/E ของบริษัทลดลงและทำให้สภาพคล่องของ BTS ดีขึ้นด้วยแนะนำซื้อราคาพื้นฐาน 6.50 บาท
นอกจากนี้กลุ่มพลังงานต้องระมัดระวังเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสงครามการค้า (Trade War) ที่จะส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ1 และกลุ่ม OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิต ช่วงนี้ระวังการลงทุนในกลุ่มพลังงาน