“เผ่าภูมิ” คาด GDP Q1/68 โต 3.4% ย้ำพื้นฐานเศรษฐกิจแกร่งสวนตลาดทุน

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” คาด GDP ไทยไตรมาสแรก ปี 2568 โต 3.4% สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ย้ำพื้นฐานเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง แม้ตลาดหุ้นไม่สะท้อนภาพรวม แนะนักลงทุนอย่าตื่นตระหนก ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม


วันนี้ (5 มี.ค.68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand โดยระบุว่า เศรษฐกิจประเทศไทยอยู่ในขาขึ้น เมื่อย้อนดูตัวเลขในปี 2567 พบว่า ไตรมาส 1 เป็นช่วงที่มีปัญหารุมเร้าทำให้ GDP โตแค่ 1.7%  ส่วนไตรมาส 2 โตขึ้น 2.3% ไตรมาส 3 ขยายตัวเป็น 3% และไตรมาส 4 ขยายตัวสูงถึง 3.2%

ซึ่ง GDP ไตรมาส 4/67 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส ขณะที่การลงทุนภาครัฐเติบโตสูงสุดในรอบ 9 ปี ดันการส่งออก บริการ ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และการใช้จ่ายภาคประชาชนให้ขยายตัวต่อเนื่อง

นายเผ่าภูมิ เปิดเผยด้วยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้คาดการณ์ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของปี 2568 จะโต 3.4% มากกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลข 3.4% ดังกล่าว ยังเป็นการโตสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส

“ตลาดหุ้นเวลาดูระยะสั้น แรงเหวี่ยง ๆ ต่าง ๆ เกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งนอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องการสื่อสารไปเมื่อวาน ก็อยากให้นักลงทุนและประชาชนในประเทศ มองกลับมาที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจและจะทำให้ไม่เสียโอกาสอันนั้น ในฐานะกระทรวงการคลัง ผมพูดไม่ได้ว่าจังหวะนี้ต้องซื้อจังหวะนี้ต้องขาย แต่ผมพูดได้ว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเราดี และราคาหุ้นปัจจุบันไม่สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ” รมช.คลัง กล่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า แม้เศรษฐกิจ Q1/68 จะเติบโตดี แต่ราคาหุ้นกลับลดลง ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยระยะสั้น เช่น นโยบายการค้าของชาติมหาอำนาจ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ดังนั้นเกิดอะไรขึ้นกับไตรมาส 1/68 ทั้งที่ทิศทางดี แต่ราคาหุ้นปักหัวลง เพราะเป็นการมองระยะสั้น โดยมีปัจจัยจากนโยบายทางการค้ามหภาคของประเทศมหาอำนาจ และความชัดเจนต่าง ๆ ก็ไม่มีผล

“ไม่อยากให้มองเป็นอุปสรรคอย่างเดียว อยากให้มองเป็นโอกาสด้วย ในเรื่องของสงครามการค้า สิ่งที่เกิดขึ้นการค้าของโลกมีปัญหาแน่นอน แต่ถามว่าใครจะผู้ชนะผู้แพ้ในเกมนี้ยังไม่รู้ แต่ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่จะโดนกระบองฟาดหนักที่สุด เราอาจจะเป็นประเทศที่มีโอกาสได้ เพราะมันมีคนที่เจ็บตัว และก็มีคนที่ไม่เจ็บตัว เราจะใครในปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา”

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 1/68 จะไม่มากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีมาตรการเดิม เช่น Easy E-Receipt และการแจกเงิน 10,000 บาทให้ผู้สูงอายุ ส่วนมาตรการใหม่ที่เตรียมออก คือ สินเชื่อค้ำประกันรถกระบะผ่าน บสย. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ไตรมาส 2/68 เศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแต่อาจชะลอลงจากไตรมาสแรกเล็กน้อย และจะมีมาตรการแจกเงินหมื่น เฟสต่อไปในช่วงปลายไตรมาส เพื่อเข้ามารักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ

ส่วนไตรมาส 3/68 รัฐบาลเตรียมไว้หลายมาตรการ เพราะมักเป็นช่วงตกท้องช้าง เช่น มาตรการภาษีเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคยานยนต์ ภาคท่องเที่ยวและบริการ และช่วงไตรมาส 4/68 จะออกพันธบัตรในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

นอกจากนี้ ยังผลักดันกฎหมายสำคัญ อาทิ ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน, ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ รวมทั้งยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. … เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ หรือ National Credit Guarantee Agency (NaCGA หรือ นากก้า) เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ ยอมรับว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องการกระจายเม็ดเงินลงสู่ผู้มีรายได้น้อย และเรื่องสินเชื่อสู่ผู้ประกอบการรายเล็ก

Back to top button