ICHI โบรกอัพ “ซื้อ” ลุ้นปีนี้รายได้โต 10% รับยอดขาย-ลูกค้า OEM หนุน

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับคำแนะนำซื้อ ICHI ราคาเป้าหมายเดิม 16 บาท หลังผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้ เติบโต 10% แตะ 9.5 พันล้านบาท อานิสงส์ฤดูร้อนกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่ม พร้อมทั้งการฟื้นตัวของลูกค้า OEM หนุน


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ภายหลังส่งสัญญาณบวกจากการประชุมนักลงทุน (Opp Day) คาดการณ์ธุรกิจได้รับปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่เริ่มร้อนขึ้น ช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่ม พร้อมทั้งการฟื้นตัวของลูกค้าจ้างผลิตสินค้าให้แบรนด์อื่น (OEM) โดยล่าสุดแบรนด์ If กลับมาส่งคำสั่งซื้อในเดือนมีนาคม และยังได้ลูกค้าใหม่อย่าง TKN ซึ่งเตรียมเริ่มผลิตในไตรมาส 2/2568

โดยผู้บริหารบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 9,500 ล้านบาท เติบโต 10.5% จากปีก่อน โดยมาจากกลุ่มชา (Tea) เติบโต 5.5% กลุ่ม Non-tea เติบโต 17.2% และกลุ่ม OEM ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 7.7 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ รายได้ยังฟื้นตัวช้า โดยอัตราการใช้กำลังการผลิต (U-rate) อยู่ที่ 71% เทียบเท่ากับไตรมาส 4/2567เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังเย็น แต่ในเดือนมีนาคมที่อากาศเริ่มร้อนขึ้น คาดว่าจะช่วยให้รายได้กลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 2/2568

ปีนี้บริษัทเตรียมออกสินค้าใหม่หลายรายการ โดยในครึ่งปีแรกจะเปิดตัว 7 SKUs ตั้งแต่ไตรมาส 1 ซึ่งสอดรับกับช่วงฤดูร้อน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายกลุ่ม Non-tea โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง “Tan Power” ที่ปัจจุบันวางจำหน่ายใน Lotus และ Makro แล้ว รวมถึงได้ข้อสรุปดีลกับ 7-Eleven ซึ่งจะเริ่มวางขายในเดือนพฤษภาคม ขณะที่กลุ่ม Tea คาดว่าจะเติบโตเพียงเล็กน้อย เนื่องจากฐานที่สูงในช่วงสองปีที่ผ่านมา

สำหรับกลุ่ม OEM ล่าสุดลูกค้าเดิมอย่างแบรนด์ If กลับมาส่งคำสั่งซื้อในเดือนมีนาคม โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 400 ล้านบาทในปี 2568 จากที่ทำได้เพียง 52 ล้านบาทในปี 2567 นอกจากนี้ยังได้ลูกค้าใหม่อีกหนึ่งราย คือ TKN ซึ่งจะเริ่มผลิตในไตรมาส 2/2568

ในด้านการผลิต บริษัทเริ่มเดินเครื่องสายการผลิตใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หลังได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบได้รับการล็อกราคาสำหรับครึ่งปีแรก 2568 ไว้ที่ระดับต่ำกว่าช่วงไตรมาส 4/2567 และภาษีน้ำตาลจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทอีกต่อไป เนื่องจากได้มีการปรับสูตรผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว

ด้านผลประกอบการ คาดว่ากำไรในไตรมาส 1/2568 จะทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 2/2568 หลังได้รับคำสั่งซื้อ OEM เต็มไตรมาส

ขณะที่แผนการขายที่ดิน คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถบันทึกกำไรได้ในไตรมาส 2-3/2568 โดยปัจจุบันพันธมิตรที่เข้าซื้อที่ดินได้เริ่มก่อสร้างโรงงานแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเริ่มดำเนินงานได้ในช่วงกลางปี 2568 ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายเดิมที่ 16 บาท

Back to top button