“บล.พาย” ชี้เป้า! กลุ่มน่าเก็บ “ค้าปลีก-ศูนย์การค้า-ธนาคาร” แนวโน้มสดใส

บล.พาย ระบุว่า ท่ามกลางความผันผวนของตลาดโลก หุ้นกลุ่มค้าปลีก ศูนย์การค้า และธนาคารพาณิชย์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและปัจจัยหนุนทางเศรษฐกิจ แนะนำหุ้นรายตัวที่ยังมีมูลค่าน่าสนใจ เช่น BJC, CRC, CPALL, HMPRO, CPN, BBL, KBANK และ KTB


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบไปด้วยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP พบว่าอยู่ที่ 77,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 141,000 ราย  และดัชนี PMI ภาคบริการ ซึ่งออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ในด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีรถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปอีกหนึ่งเดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Bond Yield) ปรับตัวฟื้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อตลาดเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

ขณะเดียวกันจีนได้ประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 5% พร้อมกับมาตรการเร่งการขาดดุลงบประมาณ และการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในอดีตชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยสะท้อนผ่านอัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัว ดังนั้น การปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีในวันก่อน อาจเป็นเพียงการปรับขึ้นในระยะสั้น ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาค่อนข้างมากก่อนหน้านี้

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 29 จุด (+2.5%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50.7 พันล้านบาท (ยังไม่ถือว่าสูงมากนัก) โดยมีแรงหนุนหลักจากหุ้น AOT และ DELTA อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวดังกล่าวอาจเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากในอนาคตยังขาดปัจจัยเชิงบวกที่มีนัยสำคัญ แม้ว่าทรัมป์จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไป แต่ก็อาจมีการประกาศมาตรการทางการค้าใหม่ที่อาจส่งผลกดดันต่อตลาดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Valuation ของตลาดหุ้นไทยจะไม่อยู่ในระดับที่สูงมากนัก แต่ปัจจัยพื้นฐานโดยรวมยังไม่ได้โดดเด่นนัก หุ้นขนาดใหญ่อย่าง DELTA และ AOT ยังมีแรงกดดันเฉพาะตัว ขณะที่ ADVANC ก็ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว อย่างไรก็ตาม หากตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้น กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ ค้าปลีก อาทิ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ CRC, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)  หรือ CPALL, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO

ส่วนศูนย์การค้า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ยังมีแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโต และราคาหุ้นยังไม่อยู่ในระดับที่แพงมาก

อย่างไรก็ตาม คืนนี้ นักลงทุนควรจับตาดูตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 234,000 ราย

สำหรับดัชนี SET INDEX วันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200 – 1,215 จุด โดยกลยุทธ์การลงทุนควรมุ่งเน้นไปที่หุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง กำไรเติบโต และราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ได้แก่ ค้าปลีก อาทิ BJC, CRC, CPALL, HMPRO ตามด้วยศูนย์การค้า  CPN รวมถึงธนาคารพาณิชย์ คือ BBL, KBANK, KTB ขณะที่โรงพยาบาล บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS และท่องเที่ยว บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT

Back to top button