จับตา “บอร์ดดีเอสไอ” ถกปม “ฮั้วเลือก สว.67” เคาะเป็นคดีพิเศษ!
รองนายกฯ “ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะ ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณากรณีเรื่องร้องเรียน ฮั้วเลือกตั้ง สว. ปี 2567 ซึ่งหลายฝ่ายกำลังจับตาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หลังเลื่อนการลงมติมาแล้ว 1 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 มี.ค.68) เวลา 9:18 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 3/2568 วาระสำคัญ คือ การเสนอขอมติรับเรื่องสืบสวนที่ 157/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งมีพฤติการณ์อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 และประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ ที่เลื่อนมาจากการประชุมครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 25 ก.พ.68
ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ เห็นชอบให้เสนอกรณีร้องขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว. ปี 2567 ในส่วนของคดีอาญา ซึ่งไม่ใช่อำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และความผิดฐานฟอกเงินต่อคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณามีมติในการประชุมในวันนี้ (6 มี.ค.68)
ทั้งนี้ต้องจับตาดูการเข้าประชุมวันนี้ว่า คณะกรรมการคดีพิเศษจะมาประชุมครบหรือไม่ เพราะการตัดสินใจว่าจะรับเป็น “คดีพิเศษ” หรือไม่นั้น ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ หรือ 15 ใน 22 คน
มีรายงานว่า กรรมการหลายคนได้ส่งตัวแทนมาเข้าประชุมในวันนี้ อาทิ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่งนายนพดล เภรีฤกษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าประชุมแทน, นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ส่ง นางเยาวลักษณ์ นนทแก้ว อธิบดีอัยการคดีพิเศษ เข้าประชุมแทน, นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่ง นายจิรานุวัฒน์ ธัญญะเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกฎหมาย ธปท. เข้าประชุมแทน,
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่ง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เข้าประชุมแทน, นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ส่ง นายณรงค์ งามสมมิตร ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงพาณิชย์ เข้าประชุมแทน, นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ส่ง นายอรรถพล อรรถวรเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เข้าประชุมแทน
ด้าน พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ส่ง พล.ต.ท.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เข้าประชุมแทน
นอกจากนี้ มีกรรมการที่แจ้งลาประชุม อาทิ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการปราบปรามผู้มีอิทธิพล, พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ขณะที่ผู้แทนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้มีการเข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือชี้แจงถึงอธิบดีเอสไอ เกี่ยวกับประเด็นวินิจฉัย ตีความข้อกฎหมาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 49 ซึ่งบัญญัติว่า
“เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการว่า หน่วยงานของรัฐหรือพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองไว้พิจารณา และคณะกรรมการเห็นว่าเป็นการสมควรที่คณะกรรมการจะดำเนินการเองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะกรรมการมีหนังสือแจ้งให้หน่วยงานของรัฐหรือพนักงานสอบสวนนั้น โอนเรื่องหรือส่งสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำความผิดนั้น มาให้คณะกรรมการเพื่อดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ในกรณีเช่นนี้ให้หน่วยงานของรัฐหรือพนักงานสอบสวนโอนเรื่องหรือส่งสำนวนการสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองมาให้คณะกรรมการภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เช้าวันนี้มีตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง 50 คน ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนเรื่องนี้ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ (DSI) เดินทางมาฟังผลการพิจารณาของกคพ. ด้วย