“พิชัย” ชี้แจงไม่ได้บอกชาวนา “ปลูกกล้วยแทนข้าว” แค่เสนอทางเลือกใหม่

รมว.พาณิชย์ ชี้แจงเหตุพูดถึงการปลูกกล้วย แค่เสนอทางเลือกให้ชาวนา ปลูกพืชที่ตลาดต่างประเทศต้องการ ย้ำรัฐบาลไม่มีนโยบายเปลี่ยนพืชหลักประเทศ พร้อมตั้งเป้าให้ชาวนามีรายได้ที่มั่นคง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การตอบกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยได้แนะนำให้ปลูกกล้วย เนื่องจากการไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นพบตลาดมีความต้องการสูง

นายพิชัย รมว.พาณิชย์ ชี้แจงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนา ผ่านรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ในวันนี้ (7 มี.ค.68) พร้อมยืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้เปลี่ยนจากการปลูกข้าวเป็นการปลูกกล้วย

ทั้งนี้ นายพิชัย กล่าวช่วงหนึ่งว่า กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวอย่างใกล้ชิด โดยคิดเสมอว่าทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน ต้องเร่งแก้ปัญหาทันที ราคาข้าวตกต่ำ เกิดจากอินเดียผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่กลับมาส่งออกอีกครั้ง ได้รวบรวมความเห็นของชาวนากลุ่มต่าง ๆ แล้วนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ออกเป็นมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน สนับสนุนเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งเป็นข้อเสนอจากชาวนาเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาข้าวนาตกต่ำในช่วงนี้ ขณะที่การแก้ปัญหาในระยะกลางและระยะยาว จะวางระบบการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพตลาดและศักยภาพของแต่ละพื้นที่เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

ส่วนกล่าวถึงการปลูกกล้วย รมว.พาณิชย์ ชี้แจงว่า เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกล้วยญี่ปุ่นที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้มีนโยบายให้ชาวนาเปลี่ยนจากการปลูกข้าวไปปลูกกล้วยทั้งหมด แต่เป็นการเสนอทางเลือกเพิ่มเติมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทดลองปลูกกล้วย 150,000 ต้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรเห็นถึงโอกาสในตลาดต่างประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องเปลี่ยนจากการปลูกข้าวเป็นกล้วยทั้งหมด

“ไม่ได้เปลี่ยนจากปลูกข้าวเป็นปลูกกล้วย แต่หมายถึงว่าที่ไหน บริเวณไหน ปลูกกล้วยได้แล้วได้ราคาสูง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ก็ปลูก ไม่ได้ว่าให้เปลี่ยนอย่างนั้น แค่คิดก็ผิดแล้ว เพียงให้เป็นทางเลือกกับเกษตรกรที่จะปลูก” นายพิชัย กล่าวเน้นย้ำ

สำหรับแนวทางเพิ่มผลผลิตข้าว รมว.พาณิชย์ ระบุว่ารัฐบาลมุ่งพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้สามารถให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เช่นเดียวกับประเทศเวียดนามที่สามารถผลิตข้าวได้ 1.3-1.5 ตันต่อไร่ เพราะข้าวไทยยังมีผลผลิตเฉลี่ยเพียง 600-800 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังดำเนินการขยายตลาดข้าวไทยไปยังประเทศจีนและแอฟริกา โดยล่าสุดมีคำสั่งซื้อจากจีน 280,000 ตัน และจากตลาดแอฟริกา 390,000 ตัน

ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการกระตุ้นราคาข้าว ทั้งการเจรจากับประเทศผู้ส่งออก เช่น อินเดียและเวียดนาม เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาตลาดโลก รวมถึงการทำข้าวถุงขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด เพื่อช่วยดูดซับปริมาณข้าวในตลาดและพยุงราคา รัฐบาลต้องการให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว โดยไม่เพียงแต่ช่วยเหลือในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำเท่านั้น แต่ต้องวางรากฐานให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นผ่านการพัฒนาผลผลิตและการขยายตลาดส่งออก

นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับปัญหาราคาข้าวและติดตามข้อมูลราคาสินค้าเกษตรเป็นรายวัน โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน ยืนยันว่าการพูดถึงพืชทางเลือก เช่น กล้วยหรือพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เป็นเพียงแนวทางเพิ่มโอกาสให้เกษตรกร แต่ไม่ได้มีนโยบายให้เปลี่ยนจากการปลูกข้าวเป็นกล้วยทั่วประเทศ ข้าวยังคงเป็นพืชหลักของประเทศไทย และรัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชาวนามีรายได้ที่มั่นคง

Back to top button