MGC-ASIA ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 10% ลุยขยายธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก-หาพันธมิตรใหม่

MGC-ASIA เผยทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ ในปี 2568 พร้อมเผยแผนขยายการลงทุนและพัฒนา 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งธุรกิจค้าปลีกยานยนต์, บริการหลังการขาย, รถเช่าและพนักงานขับ, และบริการทางการเงิน มุ่งสร้างความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ 10% จากปีก่อน พร้อมเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่ เช่น XPENG X9 รถไฟฟ้าอัจฉริยะ และการขยายสาขาบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ


ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC เปิดเผยในงาน Opportunity Day ถึงทิศทางการเติบโตธุรกิจว่า ในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 20,334 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจาก 4 กลุ่มธุรกิจ รวมทั้งมีแผนศึกษาเพื่อขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้การแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อน MGC-ASIA สู่การต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต สอดรับกับ
กลยุทธ์การขับเคลื่อนใน 4 กลุ่มธุรกิจ

1.กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) : โดยล่าสุด บริษัทฯ เตรียมส่งมอบ XPENG X9 รถตู้ไฟฟ้าทรงสปอร์ตอัจฉริยะ พวงมาลัยขวาล็อตแรกของโลก ให้กับลูกค้าที่จองสิทธิ์ไว้ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป โดย XPENG X9 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ เมืองทองธานี ในวันที่ 24 มีนาคม – 6 เมษายนนี้ เพื่อรักษาอันดับ 1 ในส่วนของส่วนแบ่งตลาดรถพรีเมียม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายแบรนด์ดังอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โรลส์ – รอยซ์ โกสต์ ซีรีส์ ทู ที่เป็นกลุ่ม อัลตร้า-ลักซูรี่ เซกเมนต์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ Lifestyle Mobility Ecosystem ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์การเดินทางอย่างครบวงจร

2.กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย (Aftersales Service) : รายได้ของกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากยอดการเข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯได้อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้บริษัทฯ ได้เตรียมขยายสาขา MMS Car Service & Tire ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร (One-Stop Service) เพิ่มอีก 5 สาขา และมีการขยายการให้บริการซ่อมสีและตัวถังยานยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) เพิ่มบริการให้ครอบคลุมในหลากหลายพื้นที่ เพื่อสร้างอัตราการกลับมาใช้บริการของลูกค้าให้สูงขึ้น

3.กลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่าและพนักงานขับ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว (Car Rental and Driver Services) : กลุ่มบริษัทฯ เตรียมเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์การให้บริการในกลุ่มลูกค้าองค์กร รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับภาค
การท่องเที่ยว รวมถึงรถเช่า มีดีมานด์เพิ่มขึ้น

4.กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) : ได้แก่ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ผู้ให้บริการทางการเงินให้กับกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง มีความชำนาญในด้านสินทรัพย์ที่เป็นยานพาหนะหรู ทั้งรถยนต์ เรือยอร์ช และเครื่องบิน ตลอดจน อสังหาริมทรัพย์ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้นำในการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อให้บริการแบบครบวงจร และเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเป็นปีแรก จากกลยุทธ์สร้างการเติบโตด้วยการรุกตลาดสินเชื่อเพื่อสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Lending) เจาะกลุ่มลูกค้า High Net Worth ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดสินเชื่อ Wealth Lending ในอัตราที่สูงขึ้น พร้อมตั้งเป้าการขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นแตะระดับ 12,500 ล้านบาท รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการดำเนินงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และควบคุมผลขาดทุนด้านเครดิต โดยการนำเสนอการแก้ปัญหาในการชำระหนี้ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า เพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ธุรกิจให้บริการประกันภัยชั้นแนวหน้า อย่าง บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด กลุ่มบริษัทฯ วางแผนกลยุทธ์ในปีนี้ ที่จะขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งประกันที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG เช่น ในกลุ่มพลังงาน พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก และเมกะเทรนด์ต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และรักษาการเป็นโบรกเกอร์ระดับชั้นนำ

“ในปีนี้ MGC-ASIA ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มความได้เปรียบสูงสุด ให้ธุรกิจในกลุ่มการเงิน, ประกันภัย และยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อน MGC-ASIA สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต ภายใต้การตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10%“ ดร.สัณหวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button