AS โฟกัสปี 68! ลุย “EdTech” เสริมแกร่งธุรกิจเกม ขยายฐานตลาดอาเซียน

AS เผยทิศทางปี 2568 ขยายสู่ EdTech หลังลงทุน "Green Moons" พร้อมปรับกลยุทธ์ธุรกิจเกม เน้นคุณภาพ สร้างฐานผู้เล่นที่มั่นคง ลุยตลาดอาเซียน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และโอกาสใหม่ใน Blockchain


นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในงาน Opportunity Day ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 มีรายได้จากการขายให้บริการ  1,120.30 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 22.70% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,449.23 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 189.35 ล้านบาท ลดลง 13.27% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 218.33 ล้านบาท

โดยเป็นผลมาจากเกมใหม่ที่เปิดให้บริการได้รับความนิยมน้อยกว่าที่คาดหวัง ประกอบกับรายได้จากประเทศมาเลเซีย ปรับตัวลดลง 99.8% เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ ได้ขายบริษัทฯ ย่อยในประเทศมาเลเซียออกไปในไตรมาส 3/2567

นายปราโมทย์ กล่าวว่า บริษัทฯ กำลังขยายธุรกิจ ไปยัง Education Technologies โดยเมื่อต้นปี 2568 บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในบริษัทใหม่ ชื่อ “Green moons” ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำ EdTech มาแล้ว 2 ปี เป็นทีมงานใหม่ที่มีประสบการณ์และมีความสามารถในการพัฒนา ทั้งด้าน EdTech รวมถึง Digital transformation โดยเป็นการเข้าลงทุน 15% ในหุ้นใหม่ของบริษัทฯ

“Green moons” เริ่มต้นจากการพัฒนา ระบบ Education หรือการศึกษาที่ใช้บริหารจัดการการเรียน หรือ แอดมิชชั่น (Admission) ระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย จากมหาวิทยาลัยแรก คือ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ที่เริ่มเข้ามาใช้งานและพัฒนา ปัจจุบันได้ขยายไปในมหาวิทยาลัยอื่น และระดับโรงเรียน

นอกจากนี้ยังทำการเรียนการสอนออนไลน์ (Online learning) ครบถ้วนใน Ecosystem พร้อมกันนี้ยังขยายไปทำ Digital transformation ให้องค์กรธุรกิจหรือหน่วยงานรัฐอื่นหลายส่วน ดังนั้นในปี 2568 จะเป็นอีกปีที่บริษัทฯ จะศึกษาและมองหาโอกาสเพิ่มเติมที่จะลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่หรือบริษัทในอุตสาหกรรมใหม่ที่น่าสนใจต่อไป

นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับโฟกัสในแต่ละธุรกิจของปี 2568 ประกอบการ Online Games บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างฐาน User จากเกมคลาสสิคที่มี 3-5 เกม ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรที่ค่อนข้างมั่นคงไปอีก 2-3 ปี พร้อมกันนี้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ IPs ที่มีกลุ่มผู้ติดตามจำนวนมาก โดยปีนี้ไม่ได้เน้นปริมาณเปิดตัวเกมใหม่ แต่จะเน้นคุณภาพและเกมที่มีฐานลูกค้า จะเป็นหลักในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับทางธุรกิจ

ส่วนธุรกิจ Blockchain ยังคงติดตามการเติบโต ทั้งขนาดของตลาด Digital asset, บริการ และโอกาสใหม่ที่อยู่ในธุรกิจ Blockchain ทั้งเน้นพัฒนาให้มีความง่ายและเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นเกมที่สนใจ Web3 หรือ Blockchain พร้อมย้ำการเพิ่มทางเลือกที่จะร่วมมือกับทั้งลูกค้าและพันธมิตรในธุรกิจใหม่อย่าง EdTech

“แอสเฟียร์วันนี้ไม่ใช่บริษัทที่ทำเรื่องเกมอย่างเดียวแล้ว เรามีการลงทุนของเทคโนโลยีด้านอื่น ๆ ควบคู่กับธุรกิจหลักด้านเกม เราเป็นบริษัทที่ ความสามารถในการสร้างทั้งรายได้และกำไรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเรามีความสามารถทางด้านการเงินที่แข็งแรง ดูได้จากเรามีอัตราหนี้ที่ต่ำมาก และกระแสเงินสดที่ health สามารถที่จะดูแลบริษัทและธุรกิจได้โดยที่ไม่ต้องไปสร้างภาระหนี้เพิ่มเติม และ ณ วันนี้เรายังมีเงินสดที่เป็นการดำเนินการบวก ที่ทำให้ธุรกิจดำเนินได้ปราศจากความกังวล” ประธานกรรมการ บมจ.แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ ระบุ

นายปราโมทย์ กล่าวถึงตลาดเกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จใน 3 ประเทศ แต่ยังมีอีก 3 ประเทศที่ผลประกอบการอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงก็ตาม ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขยายการเติบโต โดยเน้นการเจาะตลาดเกมในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ผ่านกลยุทธ์การเปิดตัวเกมใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้เล่นในแต่ละประเทศ

Back to top button