
“ทรัมป์”ขู่คว่ำบาตรเศรษฐกิจ-ขึ้นภาษีศุลกากร “รัสเซีย” บีบร่วมโต๊ะเจรจาหยุดยิง
“โดนัลด์ ทรัมป์” ส่งสัญญาณกดดันรัสเซีย ประกาศพิจารณาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ-ขึ้นภาษีศุลกากร หากยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิง ก่อนการประชุมสำคัญกับยูเครน ขณะที่รัสเซียเดินหน้าถล่มโครงสร้างพื้นฐานยูเครนอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 11 คน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณกดดันรัสเซียหนักขึ้น หลังโพสต์ผ่าน Truth Social ว่า กำลังพิจารณาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและขึ้นภาษีศุลกากรต่อรัสเซีย หากยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงหรือแนวทางสู่สันติภาพในสงครามยูเครน
แม้ว่าทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า มาตรการที่ว่านี้จะมีรูปแบบอย่างไร แต่คำประกาศดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนแปลงจุดยืนที่น่าจับตามอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์มักกล่าวชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และโจมตียูเครนว่าไม่ต้องการสันติภาพ
อย่างไรก็ตามท่าทีแข็งกร้าวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่สหรัฐฯ และยูเครนจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะเป็นเวทีหารือครั้งแรกระหว่าง 2 ประเทศ นับตั้งแต่ทรัมป์เปิดศึกวิวาทะกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ในทำเนียบขาว
การประชุมที่ซาอุฯ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารและข่าวกรองแก่ยูเครน ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์สงคราม โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียได้เพิ่มการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนอย่างหนัก
VOA Thai รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.68 ขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียพุ่งเป้าไปที่เมืองโดโบรพิลเลีย ในแคว้นโดเนตสก์ ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และบาดเจ็บอีก 30 ราย รวมถึงเด็ก 5 คน
นอกจากนี้ จากกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนจะจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลแดง ทั้งนี้มีรายงานว่า เซเลนสกีจะเดินทางไปยังซาอุฯ ในวันจันทร์ (10 มี.ค.68) เพื่อพบปะกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ก่อนการประชุมร่วมกับสหรัฐฯ