
NKT ปักหมุดรายได้ปี 68 พุ่ง 10% วาง 7 กลยุทธ์หลัก หนุนธุรกิจโตมั่นคง
NKT เปิด 7 กลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ พร้อมเดินรุกขยายการลงทุน ตั้งเป้ารายได้เติบโต 8-10% ประเมินจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ NKT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนด 7 กลยุทธ์หลักเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ประกอบด้วย (1) การมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ, (2) การพัฒนาคุณภาพบริการโดยเน้นบุคลากรและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่ซับซ้อน, (3) การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ทั้งในการรักษาทางการแพทย์และการบริหารองค์กร, (4) การขยายบริการผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ, (5) การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และพัฒนา ความเชื่อมั่นจากผู้ใช้บริการ, (6) การขยายธุรกิจผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลและธุรกิจด้านสุขภาพอื่น ๆ และ (7) การขยายฐานผู้รับบริการชาวต่างชาติ
โดยปัจจุบัน โรงพยาบาลนครธน ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 2 และเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 28 ปี โดยให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย ภายใต้วิสัยทัศน์ “โรงพยาบาลนครธนมุ่งมั่นสู่ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางตามมาตรฐานสากล และให้การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์” พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนขยายการให้บริการในหลากหลายมิติ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
แพทย์หญิง ศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ NKT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ (1) โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 บนถนนเอกชัย ขนาด 151 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/2568, (2) โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2569 และ (3) โครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธนเพิ่มอีก 110 เตียง จากปัจจุบัน 150 เตียง โดยจะทยอยเปิดให้บริการระหว่างปี 2568-2570
ทั้งนี้ NKT ยังได้ดำเนินแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้รับบริการชาวต่างชาติ โดยแต่งตั้งตัวแทนในประเทศเมียนมา เพื่อเป็นศูนย์กลางติดต่อและให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทย ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศกัมพูชา และมีแผนขยายตลาดไปยังบังกลาเทศในอนาคตอันใกล้
โดยหนึ่งในจุดแข็งสำคัญของโรงพยาบาลนครธน คือ การให้บริการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนระดับตติยภูมิ โดยมีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางถึง 20 ศูนย์ อาทิ ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์หัวใจ ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็ง และศูนย์ทันตกรรม นอกจากนี้ ยังมีแผนกการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทาง เช่น แผนกไตเทียม พร้อมทั้งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในหลากหลายสาขา ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาโรงพยาบาลให้สามารถรองรับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการรักษาแบบองค์รวม
แพทย์หญิง ศิเรมอร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการขยายเครือข่ายและศักยภาพของโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ตอกย้ำความเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่สามารถให้บริการทางการแพทย์ระดับสากล
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,020.46 ล้านบาท โดยรายได้หลักสัดส่วน 98.29% เป็นรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล จำนวน 1,985.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 233.70 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิ 11.57%
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมในวันที่ 29 เมษายน 2568