
แรงขาย LTF สะเด็ดน้ำ! ครม.ไฟเขียวเข้า “Thai ESG Extra” รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท
ครม.อนุมัติ “Thai ESG Extra” ดึงเม็ดเงินใหม่เข้าตลาดหุ้น - เปิดทางโยกเงินจาก LTF พร้อมสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท ขณะเดียวกัน เตรียมชง พ.ร.ก. เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. ลุยคดีไฮอิมแพค หวังฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 มี.ค.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายพิชัย เปิดเผยว่า ครม. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จัดตั้งกองทุน “Thai ESG Extra” โดยเปิดรับเงินลงทุน 2 ส่วน ได้แก่
- เงินจากกองทุน LTF เดิม ที่ยังคงค้างอยู่ในระบบกว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยผู้ลงทุนสามารถโยกย้ายเงินเข้าสู่กองทุนใหม่ พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท แบ่งเป็น 300,000 บาท ในปี 2568 ส่วนอีก 200,000 บาท ทยอยลดหย่อนได้ปีละ 50,000 บาท เป็นระยะเวลา 4 ปี โดยโยกเงินได้ภายในปีนี้เท่านั้น
- เงินลงทุนใหม่ ที่เปิดให้ลงทุนครั้งเดียว ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท
รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญกับความผันผวนต่อเนื่อง โดยดัชนีเคยอยู่ในกรอบ 1,400-1,500 จุด เมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว แต่หลังจากนั้นปรับตัวลดลงแตะ 1,200 จุด จากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนแม้กองทุนรวมวายุภักษ์จะเคยเข้ามาช่วยพยุงตลาดและดันดัชนีกลับไปที่ 1,400 จุด แต่ปัจจุบันมีแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ต่อ เม็กซิโก, แคนาดา และจีน ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นคู่ค้าหลักของหลายประเทศทั่วโลก
ผลกระทบดังกล่าวกดดันตลาดหุ้นหลักของสหรัฐฯ อย่าง Nasdaq และ S&P 500 ปรับตัวลงอย่างหนัก โดยเฉพาะ S&P 500 ที่ร่วงไปกว่า 8% ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงแตะ 1,100 จุด ก่อนจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อความกังวลเริ่มคลี่คลาย
นายพิชัย กล่าวว่า กองทุน Thai ESG ซึ่งเน้นลงทุนใน หุ้นกลุ่มยั่งยืน Environment, Social, Governance รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีกำลังเป็นที่จับตามอง เนื่องจากกลุ่มนี้ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แม้ตลาดโดยรวมจะเผชิญกับความผันผวนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ขณะนี้ ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำลังเรียกบริษัทต่าง ๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ESG ว่าสร้างความยั่งยืนได้อย่างไร โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ มาช่วยกันปรับตัว และตนจะลงไปดูว่าจะต้องมีการปรับปรุงอะไรอีกบ้าง ทั้ง SET 50 และ SET 100 ตนเชื่อว่าเงินทุนก็ยังดีอยู่และยังมีมาตรการอีกหลายอย่างในการเรียกความเชื่อมั่น นอกเหนือจากนักลงทุนต่างประเทศที่ได้มีการแก้ไขไปแล้ว
“ปัจจุบัน LTF ยอดการขายน้อยลง เมื่อมีกองทุน Thai ESG Extra มาเสริม ก็คิดว่าน่าจะช่วยชะลอการขายได้มาก” นายพิชัย กล่าว
พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม. อนุมัติ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดในตลาดทุน โดยเฉพาะกรณีที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง คาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์
ด้าน นางพรอนงค์ เลขาธิการ ก.ล.ต. ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการโยกเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เข้ากองทุน Thai ESG Extra โดยระบุว่า ผู้ลงทุนมีสิทธิ์เลือกเองว่าจะโยกหรือไม่ หากเลือกโยกเงินเข้า Thai ESG Extra ต้องโยกเงินทั้งหมด หากไม่ต้องการโยก สามารถเลือกไม่เข้าร่วมได้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่กองทุน Thai ESG Extra เปิดรับเงินลงทุนใหม่เพิ่มเติมด้วย
สำหรับนักลงทุนที่มี Thai ESG เดิม ซึ่งได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 300,000 บาท หากลงทุนใน Thai ESG Extra เพิ่ม ก็จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีอีก 300,000 บาท โดยต้องลงทุนภายในกรอบเวลาที่กำหนด ไม่เกิน 30 มิถุนายน 2568
นอกจากนี้ นางพรอนงค์ยังกล่าวถึง พ.ร.ก. เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. ซึ่งจะช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในคดีที่มีผลกระทบวงกว้าง (High Impact Cases) เช่น กรณีหุ้น STARK มั่นใจว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้จะทำให้ ก.ล.ต. มีอำนาจสั่งอายัดทรัพย์ได้ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น ในกรณีที่พบความผิดปกติในตลาดทุน ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับนักลงทุน และสร้างเสถียรภาพให้ตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตาม ในภาคเช้าของวันนี้ (11 มี.ค.68) ตลาดหุ้นไทยยังคงต้องติดตามทิศทางการเคลื่อนไหว โดยในช่วงบ่ายนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อาจมีแรงซื้อกลับหลังจากที่ภาคเช้าได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,169.99 จุด ลดลง 7.45 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 20,020.19 ล้านบาท