NOVA เดินหน้าโครงการ G1FSO เสริมแกร่งธุรกิจพลังงาน

NOVA X ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจ FSO ครบวงจร เดินหน้าโครงการ G1FSO เสริมศักยภาพพลังงานไทย พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานระดับสากล


นางสาวปาลีรัฐ ปานบุญห้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท โนวา เอมไพร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOVA เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบการไทยรายแรกที่ให้บริการเรือกักเก็บน้ำมันดิบและขนถ่ายน้ำมันแบบลอยน้ำ (FSO) ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบทางวิศวกรรม การจัดหาอุปกรณ์ ก่อสร้าง การติดตั้ง และการทดสอบ (EPCIC) รวมถึงการดำเนินงานและบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ มุ่งเน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ

สำหรับโครงการ G1FSO นั้น NOVA X ได้เช่าเรือภายใต้สัญญาแบบ Bareboat Charter จากกลุ่มบริษัทในเครือของ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM โดยบริษัทดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลตั้งแต่การออกแบบและดัดแปลงเรือ รวมถึงการออกแบบและก่อสร้างระบบยึดโยงและขนถ่ายน้ำมันแบบทุ่นจอดจุดเดียว (Single Point Mooring – SPM) ซึ่งประกอบด้วยสมอเรือ (Anchor) โซ่สมอ (Chain) ท่อใต้น้ำและท่อผิวน้ำ (Riser and Floating Hose) และทุ่นลอยน้ำ (CALM Buoy)

ทั้งนี้ การก่อสร้างและติดตั้งครอบคลุมการปรับปรุงโครงสร้างขนาดใหญ่ การเดินท่อกว่า 7 กิโลเมตร การเดินสายเคเบิล 40 กิโลเมตร การติดตั้งอุปกรณ์สำคัญบนเรือ และการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ ระบบปั๊ม และเครื่องจักรหลัก ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและความพร้อมด้านการลงทุน

ด้านการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) NOVA X ได้ร่วมมือกับ บริษัท วิสต้า โอเชิ่ยน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NOVA ให้บริการดูแลระบบ FSO และ SPM ครอบคลุมการบำรุงรักษาอุปกรณ์ ระบบขนถ่ายน้ำมัน และโครงสร้างทั้งหมด ด้วยขอบเขตงานที่ครอบคลุมดังกล่าว ทำให้เรือลำนี้สามารถจัดเก็บน้ำมันดิบได้มากกว่า 600,000 บาร์เรล และไม่จำเป็นต้องเข้าท่าเรือเพื่อซ่อมบำรุงตามรอบระยะเวลาปกติ (Drydocking) ช่วยให้สามารถดำเนินงานที่แหล่งปลาทองได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับโครงการ G1FSO ถือเป็นโครงการนำร่องที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการของ NOVA ในปีนี้ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาโครงการเรือกักเก็บน้ำมันดิบ โดย NOVA X พร้อมเป็นผู้นำในธุรกิจนี้และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

นางสาวปาลีรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีการวางแผนธุรกิจที่รอบคอบและชัดเจน ส่งผลให้ NOVA มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำ และมีรายได้จากการดำเนินงานที่แน่นอนจากทั้ง NOVA X และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท โซลาร์ อาเขต จำกัด โดยมั่นใจว่าในปี 2568 กลุ่มบริษัทจะสร้างรายได้สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างแน่นอน

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา NOVA มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 52.25 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมจำนวน 185.18 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท วินชัย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NOVA ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 11 มีนาคม 2567

“เรามุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Offshore Service ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ พร้อมกันนี้ยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจโดยใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและยั่งยืน” นางสาวปาลีรัฐ กล่าว

Back to top button