FM มองโอกาสทอง! ขยายกำลังผลิตไก่ รับอานิสงส์ไข้หวัดนกสหรัฐฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15%

FM มองสถานการณ์ไข้หวัดนกในสหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมไก่ไทย หลังซัพพลายโลกลดลง คาดช่วยหนุนราคาปรับตัวสูงขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายกำลังการผลิต หวังดันรายได้โต 15% ตามเป้า


นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท ฟู้ด โมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดนกในสหรัฐอเมริกาที่มีความรุนแรง บริษัทประเมินว่าประเด็นนี้อาจส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมไก่ของไทย เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหลักของลูกไก่ พ่อแม่พันธุ์ที่ส่งออกไปทั่วโลก เมื่อซัพพลายในตลาดโลกลดลง ย่อมส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับประเทศผู้ผลิตไก่รายอื่น รวมถึงประเทศไทย

“โมเมนตัมของตลาดนี้น่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไก่ของไทย รวมถึง FM ด้วยเช่นกัน”

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางของบริษัท มีแผนรับมือกับภาวะซัพพลายในตลาดที่ลดลง เพื่อให้สามารถใช้โอกาสจากสถานการณ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในภาพรวม หากซัพพลายในตลาดโลกลดลงบางส่วน โดยประเมินว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมไก่ไทย โดยเฉพาะกับ FM ซึ่งบริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องแนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ หนึ่งในแนวทางที่บริษัทพิจารณาคือการปรับรอบระยะเวลาการขายให้สั้นลง เพื่อให้สามารถปรับราคาให้สะท้อนภาวะตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า ต้องเรียนว่า ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักของอุตสาหกรรมไก่ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าปีกไก่และตีนไก่ ซึ่งผู้ผลิตไก่ไทยส่งออกไปยังจีนเป็นประจำและเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าเหล่านี้

ทั้งนี้ ประเทศจีนมีการนำเข้าสินค้าจากทั้งไก่ไทยและไก่สหรัฐอเมริกา หากการนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นไปได้ยากขึ้นหรือมีต้นทุนที่สูงขึ้น ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับไก่ไทยในการขยายส่วนแบ่งตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในจีนได้มากขึ้น

“สำหรับรายได้ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ประมาณ 15% ซึ่งเป็นผลจากการขยายกำลังการผลิต รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมไก่ในระดับโลกตามการประเมินของเรา” นายณัฐพล กล่าว

ในส่วนของปัจจัยหลักที่คาดว่าจะมีผลต่อการเติบโตของธุรกิจในปีนี้ สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ ปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน โดยปัจจัยภายนอก หนึ่งในปัจจัยสำคัญคืออุปทานจากประเทศคู่แข่งของไทย เช่น สหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรป ที่เผชิญปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมไก่ของไทย

ขณะที่ปัจจัยภายใน บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายกำลังการผลิตและขยายตลาดให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้โดยตรง ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 15%

นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ เป็นไปตามที่บริษัทได้วางแผนไว้ตั้งแต่ช่วงการเสนอขายหุ้น IPO โดยบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปที่โรงงานกรุงศุข คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10-15% และขยายกำลังการผลิตของโรงชำแหละเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15% เช่นกัน

โดยการลงทุนในทั้งสองส่วนดังกล่าว คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนประมาณ 300-500 ล้านบาทภายในปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทตระหนักถึงความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมไก่ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดหลักของบริษัท ได้แก่ ยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในบางภูมิภาคอาจชะลอตัว

ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและสามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทในปีนี้

สำหรับบริษัท FM ถือเป็นบริษัทใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนและเสนอขายหุ้น IPO ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทจะมีประวัติการดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 47 ปี แต่ในแง่ของข้อมูลทางการที่ถูกนำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจยังมีไม่มากนัก

จากกระแสตอบรับของนักลงทุนที่บริษัทได้รับ หลายท่านอาจต้องการติดตามผลประกอบการในช่วง 2-4 ไตรมาสแรกหลัง IPO เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ FM ถือเป็นหุ้นใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตไม่แพ้บริษัทที่จดทะเบียนมาก่อนหน้า

ข้อได้เปรียบของ FM คือขนาดของธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วงขยายตัว ทำให้มีโอกาสเติบโตได้อีกมากเมื่อเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีขนาดใหญ่แล้ว และบริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่มั่นคงและต่อเนื่อง เพื่อให้ FM เป็นบริษัทที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในระยะยาว

“บริษัทให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เราดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างการขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ พร้อมวางแผนการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ เราพยายามบริหารจัดการธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยไม่พึ่งพาปัจจัยภายนอกหรือภาวะตลาดมากจนเกินไป ซึ่งแนวทางดังกล่าวถือเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button