เปิด 20 อันดับหุ้นถูก “Cover-Short” สูงสุด ณ 11 มี.ค.68

ข้อมูลสิ้นสุด 11 มี.ค.68 TTB มีปริมาณชอร์ตคงค้างเหลือมากสุด 431 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.42% และมีมูลค่าการปิดสถานะชอร์ตด้วยการซื้อคืนสูงสุดจำนวน 34 ล้านบาท ส่วน BTS ถูก Short Sales สูงสุดจำนวน 66 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) ณ วันที่ 11 มี.ค.68 พบว่ามีหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (รวม NDVR) จำนวนทั้งหมด 242 หลักทรัพย์ โดยหุ้นที่คงสถานะขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

1.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จำนวน 413,777,400 หุ้น หรือคิดเป็น 0.42% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

2.บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จำนวน 315,343,815 หุ้น หรือคิดเป็น 1.54% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

3.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จำนวน 261,869,596 หุ้น หรือคิดเป็น 1.71% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

4.บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จำนวน 222,040,300 หุ้น หรือคิดเป็น 1.49% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

5.บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จำนวน 194,036,920 หุ้น หรือคิดเป็น 0.61% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

ทั้งนี้ จาก 20 อันดับในตารางดังกล่าว พบ 4 หุ้นที่ถูก Cover Short สูงสุดเกิน 3 ล้านหุ้น ได้แก่

1.TTB จำนวน 17,858,300 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 1.91 บาท คิดเป็นมูลค่า 34,109,353 บาท

2.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จำนวน 3,974,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 10.90 บาท คิดเป็นมูลค่า 43,323,140 บาท

3.บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จำนวน 3,498,900 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 1.72 บาท คิดเป็นมูลค่า 6,018,108 บาท

4.บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI จำนวน 3,428,200 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 3.22 บาท คิดเป็นมูลค่า 11,038,804 บาท

ขณะเดียวกันพบ 3 หุ้นถูก Short Sales สูงสุดเกิน 9 ล้านหุ้น ได้แก่

1.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS จำนวน 11,353,908 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.90 บาท คิดเป็นมูลค่า 66,988,057.20 บาท

2.WHA จำนวน 9,322,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 3.66 บาท คิดเป็นมูลค่า 34,120,716บาท

3.BEM จำนวน 9,127,700 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.90 บาท คิดเป็นมูลค่า 53,853,430 บาท

Back to top button