PTTGC ตั้งเป้าลดต้นทุน-เพิ่มรายได้ ดัน “อีบิทด้า” ปี 73 โต 300 ล้านเหรียญ

PTTGC ตั้งเป้าพลิกจากภาวะขาดทุน มุ่งลดต้นทุนเพิ่มรายได้ 4,500 ล้านบาทต่อปี เดินหน้าธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ ผลักดัน EBITDA เพิ่มอีก 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 73


นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดกลยุทธ์ “Holistic Optimization” เร่งพลิกฟื้นธุรกิจและเสริมศักยภาพการแข่งขัน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเผชิญภาวะซบเซา ตั้งเป้าลดต้นทุนและเพิ่มรายได้รวม 4,500 ล้านบาทต่อปี ผ่านมาตรการลดค่าใช้จ่าย เสริมประสิทธิภาพองค์กร และเพิ่มสภาพคล่อง พร้อมขยายธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ (High Value & Low Carbon Business) เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ โดยบรรลุข้อตกลงจัดหาอีเทนเพิ่มเติม 20% จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ตั้งแต่ปี 2567 พร้อมใช้กลยุทธ์ Asset Light ลดภาระการลงทุน (Capex) และเสริมสภาพคล่องผ่านวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน เพื่อรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ PTTGC เป็นรายแรกของไทยที่เตรียมนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯ ทดแทนวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อลดต้นทุน โดยบริษัทได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรระดับโลก อาทิ Enterprise Products Partners, MISC Berhad และ ไทยแท้งค์เทอร์มินัล จำกัด สำหรับการจัดหาและขนส่งอีเทนคุณภาพสูง 400,000 ตันต่อปี เป็นระยะเวลา 15 ปี โครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2572 โดยไม่ต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของโรงงาน ช่วยลดต้นทุนและเสริมศักยภาพการแข่งขันระยะยาว

โดยบริษัทเดินหน้าเสริมศักยภาพมาบตาพุดเป็น Specialty Hub ของภูมิภาค โดยอยู่ระหว่างหารือกับภาครัฐและพันธมิตรระดับโลกเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ Toray ศึกษาเทคโนโลยีการผลิตเคมีภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สำหรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ สิ่งทอ และอิเล็กทรอนิกส์ คาดการณ์ว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2570

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมุ่งขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านโซลูชันเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับ 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ Oleochemicals พัฒนาเคมีภัณฑ์จากพืช ผ่านบริษัท GGC และ Emery, Bioplastics ขยายธุรกิจผ่าน NatureWorks ผลิต PLA รองรับตลาดบรรจุภัณฑ์และสิ่งทอ คาดการณ์ว่าโรงงานจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2568, Recycled Plastics พัฒนา rPET และ rHDPE ผ่าน ENVICCO รองรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และ Biofuels & Biopolymer พัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) และผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ สำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ PTTGC ได้รับการจัดอันดับ Top 1% ของดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (DJSI) ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ทั่วโลกจาก S&P Global และครองอันดับ 1 ต่อเนื่อง 6 ปี นอกจากนี้ยังได้รับการประเมินระดับ A (Leadership Level) ด้านการบริหารจัดการน้ำ (Water Security) จาก CDP ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากบริษัทกว่า 22,000 รายทั่วโลก

อย่างไรก็ดี เพื่อสะท้อนแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องและสร้างความแตกต่างผ่านนวัตกรรมที่ยั่งยืน PTTGC เปิดตัวแคมเปญ “GC StandOut #แตกต่างอย่างยั่งยืน” เชิญชวนร่วมค้นหาความแตกต่างและสร้างโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงในยุคธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gcstandout.com

คลิกรับชมวิดีโอ https://youtu.be/qZOTnzE0fgM

Back to top button