PYLON ปักธงปี 68 ชิงเค้กงานใหม่ 2 โครงการ ดันแบ็กล็อกทะลัก 1.3 พันลบ.
PYLON กางแผนปี 68 เดินหน้าประมูลงานเกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล Data Center จำนวน 2 โครงการ โชว์ตุนแบ็กล็อกแน่น 1,337 ล้านบาท มั่นใจหนุนรายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 68 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 67 มีกำไรสุทธิ 501,238 บาท ขณะที่ มีรายได้รวมอยู่ที่ 813.60 ล้านบาท ลดลง 45% จากปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 67 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีต้นทุนจากการรับงานก่อสร้าง อยู่ที่ 750.49 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน อยู่ที่ 1,271.63 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายลดลงจากปีก่อนเช่นกัน โดยอยู่ที่ 8.50 ล้านบาท มีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายการบริหาร ลดลง 8.77 ล้านบาท
ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,337.10 ล้านบาท แบ่งเป็น งานภาครัฐ (แรงงานเท่านั้น) อยู่ที่ 354 ล้านบาท คิดเป็น 26% โดยเป็นงานโครงการก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และ ภาคเอกชน (แรงงาน-วัสดุ) อยู่ที่ 947.50 ล้านบาท คิดเป็น 71%
ส่วน งานเอกชนที่ใช้แรงงานโดยเฉพาะ อยู่ที่ 35.60 ล้านบาท คิดเป็น 3% ซึ่งบริษัทมั่นใจประมาณ 80-90% จะเริ่มมีการทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ พร้อมสนับสนุนรายได้รวมกลับไปอยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท
รวมทั้งมีแผนดำเนินงานสำหรับปี 2568 โดยเตรียมเข้าประมูลงานใหม่เกี่ยวข้องกับ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) จำนวน 2 โครงการ โดยในอดีตบริษัทเคยได้รับงานประเภทดังกล่าวมาแล้วซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนงานโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการของบริษัทในปี 2568 มีอยู่หลายโครงการ ยกตัวอย่าง 1.) โครงการเวิ้งนครเกษม เยาวราช (Woeng Nakornkasem), 2.) โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานบริษัทคาราบาว, 3.) โครงการ PNP Tower, โครงการที่พักอาศัย PYT Resident พัทยา, 4.)โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมของ AP และ 5.) โครงการทางด่วนจตุโชติ ซึ่งล้วนเป็นโครงการสำคัญที่อยู่ในแผนดำเนินงานของบริษัท
“งานเสาเข็มที่กลับเข้ามายังไม่เยอะนัก แต่มีงานที่เกี่ยวข้องกับงานไดอ แฟมวอ (Deep Foundation) หรือ ม่านคอนกรีตเสริมเหล็กที่หล่อลงในพื้นดิน ซึ่งค่อนข้างมีเข้ามามากทำให้เราไม่สามารถรับงานได้ทั้งหมด” ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทกำลังพยายามรับงานในช่วงเดือน พฤษภาคม, มิถุนายน และกรกฎาคม โดยพยายามเพิ่มชุดคนงานเพื่อให้มากขึ้น สำหรับเครื่องจักรนั้นยังคงเพียงพอในการดำเนินงาน แต่ในเดือนที่ผ่านมา บริษัทยังได้ซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมประมาณ 2 ชุด อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าปี 2568 จะมีงานเพิ่มเข้ามามากกว่า 100 ล้านบาท แต่จะพิจารณางานที่สอดคล้องกับการเพิ่มกำลังคนของบริษัท เนื่องจากงานขนาดใหญ่ที่จะเริ่มในเดือนเมษายนอาจทำให้ไม่สามารถรับงานบางโครงการได้
“เกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย บริษัทมองว่ายังคงไม่แน่นอน และปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่จะยังคงต้องเผชิญในปี 2568 ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเตรียมงบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งปีนี้อาจใช้งบลงทุนไปประมาณ 30-40% พร้อมทั้งคาดว่าในจะมีแบ็กล็อกเข้ามาไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท เพื่อสนัลสนุนผลการดำเนินงาน” ดร.ชเนศวร์ กล่าวทิ้งท้าย