
AIMC ชี้กองทุน “Thai ESG Extra” ระดมทุน พ.ค.-มิ.ย.นี้ ดึงเม็ดเงินใหม่ 3 หมื่นล้าน
“ชวินดา หาญรัตนกูล” AIMC มองกองทุน Thai ESG Extra ดึงเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าสู่ตลาดทุนไทยราว 2-3 หมื่นล้านบาท ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ พร้อมสิทธิประโยชน์ภาษีสูงสุด หนุนเพิ่มสภาพคล่องและเสริมเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า กองทุน Thai ESG Extra เป็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการลงทุนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยรัฐบาลได้กำหนดให้มีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุนในกองทุนนี้ ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะได้รับเงินทุนจากทั้งการลงทุนใหม่และการโอนย้ายจากกองทุน LTF เดิมที่มีอยู่ ซึ่งคาดว่าในช่วงการระดมทุนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนมิถุนายน จะมีเงินลงทุนใหม่เข้ามาในตลาดทุนไทยประมาณ 20,000 – 30,000 ล้านบาท
สำหรับกองทุน Thai ESG Extra มีกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน โดยจะลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65% ของพอร์ตการลงทุน และต้องเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ ESG อย่างน้อย 80% ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนไทยในทิศทางที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนใหม่จะสามารถรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดถึง 300,000 บาท ซึ่งนอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุน LTF
สำหรับผู้ที่ถือ LTF อยู่แล้ว รัฐบาลได้ออกมาตรการจูงใจโดยอนุญาตให้โอนเงินจาก LTF ไปยังกองทุน Thai ESG Extra พร้อมให้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 500,000 บาท โดยในปีแรกสามารถลดหย่อนได้ 300,000 บาท และในปีถัดไปสามารถลดหย่อนได้ปีละไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้ การโอนย้ายจะต้องดำเนินการทั้งหมดในครั้งเดียวและนักลงทุนต้องแจ้งความประสงค์ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่เกี่ยวข้องทราบ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนน่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการที่หุ้นในพอร์ต LTF เดิมของตนอาจไม่ตรงตามเกณฑ์ ESG ซึ่งรัฐบาลได้ให้เวลาบลจ. หนึ่งปีในการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของ Thai ESG Extra
โดยคาดว่าจำนวนกองทุน Thai ESG Extra ที่จะเปิดให้บริการในตลาดจะไม่มากนัก เนื่องจากมีนโยบายการลงทุนที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง โดยกองทุน LTF ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นเกิน 65% สามารถรวมกันเป็นกองทุนเดียวภายใต้ Thai ESG Extra เพื่อลดความซับซ้อนในการบริหาร
ด้านนักลงทุนที่สนใจควรพิจารณาความเหมาะสมของการลงทุนกับแผนการเงินส่วนตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีแผนที่จะใช้เงินในอนาคต เนื่องจากเงินที่โอนย้ายจะต้องถือครองตามเงื่อนไขสิทธิ์ลดหย่อนภาษี อีกทั้งสำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนใน LTF เดิมเกิน 500,000 บาท ควรพิจารณาความคุ้มค่า เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีมีขีดจำกัดที่ 500,000 บาท
กระบวนการอนุมัติกองทุน Thai ESG Extra คาดว่าจะดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพื่อยื่นจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในเดือนเมษายน และคาดว่าจะได้รับอนุมัติในระยะเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อให้สามารถเปิดขายได้ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน
สำหรับนโยบาย Thai ESG Extra ถือเป็นกลไกใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องให้กับตลาดทุนไทย โดยไม่เพียงแต่จะดึงดูดเงินลงทุนใหม่เข้าสู่ตลาด แต่ยังช่วยบรรเทาผลกระทบจากการขายกองทุน LTF เดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนของประเทศในระยะยาว