AU ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 30% ลุยขยายสาขา-เพิ่มสินค้าใหม่ เจาะตลาดตปท.

AU เปิดแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้ารายได้โต 30% เดินหน้าขยายสาขาใหม่ 14 แห่ง แตะ 98 สาขา พร้อมลุยผุดแฟรนไชส์ "อินโดนีเซีย-ดูไบ-มาเลเซีย" เร่งเครื่องปั้น SKU ใหม่เสริมแกร่งยอดขาย 7-Eleven หวังดันรายได้โตต่อเนื่อง 3 ปี (68-70) เฉลี่ย 25-30%


นาย แม่ทัพ ต.สุวรรณกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน)หรือ AU เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 12 มีนาคม 2568 ว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และกำไรสุทธิ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยหนุนหลักที่ทำให้รายได้เติบโตมาจากยอดขายจากร้านขนมหวานและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของสาขาเดิม (SSSG) ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ ชื่อ “อาฟเตอร์ ยู”

อีกทั้งการเติบโตผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 และกระแสตอบรับดีจากลูกค้าเก่าและใหม่ โดยเฉพาะความร่วมมือกับ “การบินไทย” ในการเสิร์ฟขนมปัง After You บนเที่ยวบิน ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567

ส่วนแผนธุรกิจบริษัทวางเป้า 3 ปี (68-70) รายได้เติบโตเฉลี่ย 25-30% โดยในปีนี้มุ่งยกระดับความสามารถในการแข่งขัน พร้อมต่อยอดการเติบโตผ่านกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.การขับเคลื่อนการเติบโตผ่านช่องทางที่หลากหลาย อาทิ ขยายสาขาร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น,ยกระดับเครือข่ายการจัดจำหน่าย ผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น โมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ และแพลตฟอร์มออนไลน์ และ แนะนำร้านค้า Pop-up Concept เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า

2.การสร้างแบรนด์และส่งเสริมความภักดีของลูกค้า เสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ในเครือ ได้แก่ After You Dessert Café, Luggaw, SCR, Mikka Coffee Roasters และ Someday in Copenhagen

3.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านนวัตกรรมที่โดดเด่น อาทิ เพิ่มการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำหรับ Take-home และผลิตภัณฑ์ที่รับประทานในร้าน,พัฒนาสินค้าใหม่ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตร, สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับโมเดิร์นเทรด และแพลตฟอร์มค้าปลีกใหม่

4.การขยายตัวเชิงกลยุทธ์ในระดับภูมิภาค เจาะตลาดต่างประเทศ โดยเน้นเอเชียและตะวันออกกลางเป็นตลาดหลักสำหรับการขยายสาขาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์

ส่วนในปีนี้บริษัทวางแผนขยายสาขาและแบรนด์ในเครือ 14 สาขา แตะ 98 สาขา จากปี 2567 อยู่ที่ 84 สาขา โดยแบ่งเป็น ร้านขนมหวาน After You เพิ่มอีก 6 สาขา มาอยู่ที่ 68 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 62 สาขา , ร้านผลไม้ลูกก๊อเพิ่ม 5 สาขา มาอยู่ที่ 15 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 20 สาขา และร้านกาแฟ มิกก้า(Mikka) เพิ่ม 2 สาขา มาอยู่ที่ 7 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 5 สาขา

นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาในต่างประเทศต่อเนื่อง โดยบริษัทกำลังพิจารณาเปิดสาขาแฟรนไชส์ใน “อินโดนีเซียและดูไบ” โดยดูไบคาดภายในปลายปีนี้ ส่วนมาเลเซียการเซ็นสัญญาผู้จัดจำหน่ายอยู่ในขั้นตอนการเตรียมเอกสารด้านฮาลาลและการนำเข้า และกัมพูชาเตรียมเปิด “อาฟเตอร์ยู” สาขาที่ 2 ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าหลังเปิดแฟรนไชส์แห่งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

ส่วนแผนการจัดจำหน่ายสินค้าใน 7-Eleven ปัจจุบันจำหน่ายขนมปังเนยโสดใน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเริ่มจากกรุงเทพฯก่อนแล้วจึงขยายไปยังภาคใต้ (หาดใหญ่) และมีแผนที่จะนำสินค้าใหม่ที่ไม่ใช่ขนมปังเนยโสด (เป็นหมวดใหม่) เข้าไปจำหน่ายใน 7-Eleven อีก 2 SKU ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากช่องทางร้านสะดวกซื้อจะเติบโตขึ้นอย่างมากในปีนี้เนื่องจากการวางจำหน่ายสินค้าเต็ม 4 ไตรมาสและ SKU ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามา

“บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 20-30% ตามการขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หัวเมืองใหญ่ และต่างจังหวัด และแผนขยายตลาดในต่างประเทศกลุ่ม CLMV อีกทั้งปีนี้คาดจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีจากการที่จำหน่ายสินค้าใน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประกอบกับจะมีสินค้าใหม่เพิ่มเติมเข้าไปจำหน่าย จากก่อนหน้าวางจำหน่ายขนมปังเนยโสด 2 รสชาติ คาดจะทำให้สัดส่วนรายได้จากช่องทางนี้เติบโตขึ้นอย่างมากและดันผลงานโตต่อเนื่อง” นาย แม่ทัพ กล่าวเพิ่มเติม

Company Snapshot

Back to top button