
สคทช.-กรมป่าไม้ เร่งแก้ปัญหาซื้อขายที่ดิน “คทช.” ป้องกันบุกรุกป่าสงวน
สคทช. ร่วมกับกรมป่าไม้และ GISTDA พัฒนาระบบติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน คทช. ทั่วประเทศ ด้วยเทคโนโลยีดาวเทียม SPHERE เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าสงวนและตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
สำนักงานนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) สนธิกำลังกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กองตำรวจป่าไม้) กรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการบุกรุกผืนป่าตะวันออก รวม 3 แปลง ได้แก่ 1) ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัด อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
2) ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี และ 3) ป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี พบว่ามีบางพื้นที่เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บางพื้นที่เป็นพื้นที่กันคืนป่าสงวนแห่งชาติออกจากเขตปฏิรูปที่ดิน (แปลง RF) และมีบางพื้นที่เป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นำไปจัดที่ดินทำกินให้ราษฎร ตามแนวทางของ คทช. แต่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้ราษฎรเข้าทำประโยชน์
ทั้งนี้ การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) กลุ่มที่ 1 เป็นการอนุญาตให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัย และทำกินในที่ดินของรัฐ ในลักษณะแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ ดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เมื่อจัดราษฎรเข้าทำประโยชน์แล้ว จะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ และการจัดหาตลาด คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด และคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด จะติดตามและดูแลราษฎรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าราษฎรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินที่รัฐจัดให้ได้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
ที่ผ่านมา สคทช. ร่วมกับ GISTDA มีการกำกับติดตามการใช้ประโยชน์ในแปลงจัดที่ดิน คทช. กลุ่มที่ 1 ซึ่ง สคทช. มีขอบเขตรูปแปลงที่ดิน โดยใช้เทคโนโลยีดาวเทียม ผ่านระบบติดตามการใช้ประโยชน์พื้นที่จัดที่ดิน คทช. (SPHERE) เพื่อยืนยันในการตรวจสอบย้อนหลัง (traceability) ว่าผลิตภัณฑ์จากแปลง คทช. ไม่ได้ทำลายป่า หรือทำให้ป่าไม้เสื่อมโทรม ภายหลัง พ.ศ. 2563 ตามที่กำหนดในกฎระเบียบของสหภาพยุโรปว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU regulation on deforestation-free products: EUDR)
โดยเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 สคทช. ได้หารือกับกรมป่าไม้ เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันในการกำกับติดตามและเฝ้าระวังการบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้
(ทุกประเภท) ซึ่งนอกจากจะมีพื้นที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) กลุ่มที่ 1 แล้ว ยังประกอบไปด้วย พื้นที่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มที่ 2 และ 3 ป่าสงวนแห่งชาติ ดำเนินการอนุญาตและจัดราษฎรเข้าทำประโยชน์โดยกรมป่าไม้ กลุ่มที่ 4 ป่าอนุรักษ์ ดำเนินการโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และมาตรา 121 แห่งพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และกลุ่มที่ 5 ดำเนินการโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
โดยผลการหารือ สคทช. จะร่วมกับ กรมป่าไม้ และ GISTDA ยกระดับการกำกับติดตามการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้และการบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่ คทช. ทั่วประเทศ โดยจะบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อนำเข้าข้อมูลรูปแปลงที่ดินที่ได้รับอนุญาตแล้วตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 กลุ่มที่ 1 – 3 รวมเนื้อที่กว่า 7.32 ล้านไร่ ในระบบติดตามการใช้ประโยชน์พื้นที่จัดที่ดิน คทช. (SPHERE) เพื่อให้การกำกับติดตามการใช้ประโยชน์พื้นที่มีความครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด