FM วางเป้าปี 70 รายได้หมื่นล้าน ลุยเพิ่มกำลังผลิต-ขยายตลาดสัตว์เลี้ยง

FM กางแผน 3 ปี (68-70) รายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท เดินหน้าขยายกำลังผลิตไก่เพิ่ม และต่อยอดธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่ม พร้อมขยายตลาดใหม่ เพิ่มฐานลูกค้า


นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 13 มี.ค.68 ว่าผลประกอบการปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 701.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.98% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 233.88 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 7,340.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,770.14 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมไก่ในปี 2568 คาดการณ์ว่าต้นทุนหลักในการผลิตไก่ เช่น ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง จะทรงตัวหรือมีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อย โดยอุปสงค์ของเนื้อไก่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของประเทศผู้นำเข้าหลัก เช่น ญี่ปุ่นและยุโรป ปัจจัยด้านเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอาจทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการบริโภคโปรตีนราคาประหยัดอย่างเนื้อไก่ รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป (Ready to Eat) ยังคงเติบโต เนื่องจากเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ด้านอุปทาน คาดการณ์ว่าปริมาณไก่ในตลาดโลกจะลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งอาจส่งผลให้ไทยได้รับประโยชน์จากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ราคาขายไก่ในปี 2568 มีแนวโน้มที่จะไม่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของปีก่อน และอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปัจจัยด้านต้นทุน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และอุปทานในตลาดโลกที่ลดลง

อย่างไรก็ดี บริษัทได้กำหนดแผนการขยายธุรกิจระยะ 3 ปี (2568-2570) โดยตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปี เพื่อรองรับการเติบโต บริษัทมีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตในหลายส่วน ได้แก่ การลงทุน 550 ล้านบาทในการขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูป โดยเฟสแรกในปี 2568 จะใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุน 350 ล้านบาทในโรงชำแหละไก่ ซึ่งจะนำระบบ Automation เข้ามาใช้ โดยคาดว่าจะลงทุน 100 ล้านบาทในปี 2568 อีกทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ด้วยเงินลงทุน 300 ล้านบาท โดยใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้จากการผลิตไก่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรรหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสม

สำหรับแนวทางการเติบโตของบริษัทประกอบด้วยการขยายฐานลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะเติบโตประมาณ 4% โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นพันธมิตรระยะยาว

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้าใหม่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตอีก 11% โดยเน้นการขยายไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และฟิลิปปินส์ รวมถึงตลาดที่เพิ่งมีการปลดล็อกให้สามารถนำเข้าไก่จากไทย

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของบริษัทคือการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant – QSR) ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มแบรนด์ระดับโลกที่มีเครือข่ายสาขาทั่วโลก การเข้าสู่ตลาดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายไปยังประเทศอื่นๆ ได้อย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าเสรี (FTA) เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า เช่น กำแพงภาษีและโควต้า ในตลาดที่บริษัทมีการส่งออกอยู่แล้ว เช่น สหราชอาณาจักรและเกาหลีใต้

สำหรับแผนการขยายกำลังการผลิตในปี 2568 บริษัทวางแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปจาก 27,000 ตัน เป็น 30,000 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระยะยาวเพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลก นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตของโรงชำแหละไก่อีก ประมาณ 10% เพื่อตอบสนองปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

โดยประเทศไทยมีข้อได้เปรียบที่สำคัญในตลาดอุตสาหกรรมไก่แปรรูป โดยเฉพาะด้าน คุณภาพของสินค้า และ การบริหารตลาดส่งออก ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงกว่าคู่แข่งรายสำคัญอย่างบราซิลและสหรัฐอเมริกา

สำหรับบริษัท Food M จุดแข็งที่โดดเด่น ได้แก่ การพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ (R&D) ที่ช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทมีความสามารถในการ ผลิตสินค้าตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า (Customization) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

โดยทั่วไป ธุรกิจไก่ไม่ได้มีความผันผวนตามฤดูกาลอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานของตลาด ตลอดจน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อาจมีผลต่อยอดขายในแต่ละไตรมาส

ขณะที่บริษัทมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้นไปที่ การสร้างโรงงานผลิตใหม่ทั้งในส่วนของโรงชำแหละและโรงงานผลิตไก่แปรรูป เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้น

ในด้านการสร้างแบรนด์ Food M กำลังพิจารณาพัฒนาแบรนด์สินค้าไก่แปรรูปของตนเอง โดยเน้นสินค้าที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาด หากสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ บริษัทอาจเดินหน้าสู่การสร้างแบรนด์ของตนเองในอนาคต

Back to top button