BTG ขยายกำลังผลิต “ลำปาง” รับดีมานด์เนื้อไก่พุ่ง

BTG เพิ่มกำลังผลิตใน จ.ลำปาง กำลังการผลิต 50,000 ตัวต่อวัน รองรับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น หนุนศักยภาพการผลิตรวมแตะระดับ 636,000 ตัวต่อวัน


นายสมศักดิ์ บุญลาภ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มปฏิบัติการผลิตปศุสัตว์และโรงงาน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว ประกอบกับแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับโปรตีนคุณภาพและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการเนื้อไก่ภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น เบทาโกร จึงได้ขยายกำลังการผลิตด้วยการเปิดโรงงานแปรรูปไก่แห่งที่ 5 ณ ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ด้วยกำลังการผลิต 50,000 ตัวต่อวัน ส่งผลให้ศักยภาพการผลิตรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 636,000 ตัวต่อวัน

สำหรับโรงงานดังกล่าวได้รับการออกแบบภายใต้เทคโนโลยี Smart Machine & Utility ที่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ให้มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด พร้อมได้รับมาตรฐานระดับสากล เช่น ใบรับรองการผลิตเนื้อไก่อนามัย (Q-Mark) และใบรับรองการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงฆ่าสัตว์ปีก (GMP) นอกจากนี้ ยังมีมาตรการจัดการน้ำเสียและของเสียแบบครบวงจร รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Rooftop และ Solar Carport ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 580 กิโลวัตต์ชั่วโมง

นอกจากการขยายกำลังการผลิตแล้ว โรงงานแปรรูปไก่ลำปางยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยมีการจ้างงานบุคลากรในพื้นที่ถึง 80% ของบุคลากรทั้งหมด สนับสนุนเกษตรกรผ่านโครงการไก่เนื้อประกันราคา รวมถึงการใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง

“โรงงานแห่งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของเบทาโกร แต่ยังเป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมอาหารที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ควบคู่ไปกับแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน เรามุ่งมั่นสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง เพื่อเติบโตร่วมกับเกษตรกร ชุมชน และพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยอย่างยั่งยืน” นายสมศักดิ์ กล่าว

โดยปัจจุบัน เบทาโกร มีโรงงานแปรรูปไก่รวม 5 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดลพบุรี, สมุทรสาคร, พัทลุง, มหาสารคาม และลำปาง รองรับการขยายตัวของตลาดและการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต

Back to top button