
“พิชัย” เร่งปิดดีล! ไทย-EU เดินหน้า FTA ตั้งเป้าสรุป ธ.ค.68
รมว.พาณิชย์ เร่งเครื่องคุยเจรจา FTA “ไทย-EU” รอบที่ 5 ตั้งเป้าได้ข้อสรุป 25 ธ.ค.68
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (14 มี.ค.68) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือผ่านวิดีโอคอลกับนายมารอส เซฟโควิช (Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (ไทย-EU) ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้สรุปดีลภายในปีนี้ หวังใช้ข้อตกลงนี้ขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุนจากยุโรป
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ไทย-อียู เห็นพ้องว่า FTA จำเป็นต่อเสถียรภาพการค้า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่าความยืดหยุ่นจากอียูจะช่วยให้เจรจาสำเร็จเร็วขึ้น
“ขณะนี้การเจรจา FTA ไทย-EU ดำเนินไปแล้ว 4 รอบ โดยสามารถสรุปผลการเจรจาได้ 2 บท และเริ่มหารือเรื่องการเปิดตลาดสินค้าและบริการ สำหรับการเจรจารอบที่ 5 ฝ่าย อียูจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 31 มี.ค. – 4 เม.ย.68 โดยไทยกับอียูจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ภายในวันที่ 25 ธ.ค. ปีนี้” รมว.พาณิชย กล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า แม้การเจรจา FTA ฉบับนี้จะซับซ้อนและมีประเด็นใหม่ ๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ พลังงานและวัตถุดิบ รัฐวิสาหกิจและการอุดหนุน การแข่งขันทางการค้า และระบบอาหารที่ยั่งยืน แต่กระทรวงพาณิชย์จะทำงานอย่างแข็งขัน ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและหารือกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเจรจาบรรลุผลเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้บริโภคไทย
นอกจากนี้ นายพิชัย เปิดเผยว่า ได้พบกับนายเดวิด เดลี (H.E. Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เพื่อหารือประเด็นการค้าอื่น ๆ อาทิ กระบวนการระงับข้อพิพาทในองค์การการค้าโลก (WTO) การนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยไปยังตลาดอียู ความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ของอียู
นายพิชัย ย้ำว่า FTA ไทย-EU ไม่ใช่แค่ข้อตกลงการค้า แต่เป็นหมุดหมายสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ตลาดยุโรป เพิ่มแต้มต่อให้ผู้ประกอบการ และเสริมความแข็งแกร่งให้ไทยแข่งขันบนเวทีโลก
ทั้งนี้ อียูเป็นตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่และเป็นพันธมิตรทางการค้ารายสำคัญของไทย หากสามารถสรุปผลการเจรจา FTA ได้ จะช่วยสร้างแต้มต่อให้สินค้าไทยในการแข่งขันระดับโลก ลดต้นทุนการผลิต ดึงดูดการลงทุน และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย
ไทย-อียู: คู่ค้ารายใหญ่ที่ไทยต้องเร่งปิดดีล
- EU เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น
- มูลค่าการค้ารวม 54 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.17% ของการค้ารวมของไทย
- ไทยส่งออกไป EU ราว 850,000 ล้านบาท (สินค้าเด่น ได้แก่ คอมพิวเตอร์, อัญมณี, ยาง, รถยนต์)
- ไทยนำเข้าจาก EU ราว 687,000 ล้านบาท (สินค้าเด่น ได้แก่ เครื่องจักร, ยา, อุปกรณ์การบิน)