
สแกนพอร์ต “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” ถือหุ้นอะไรบ้าง?
เปิดพอร์ต “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” พบถือหุ้น SCB สูง 23.32% รวมถึง BCP ถือกว่า 13.67% และถือ PTT กว่า 12.16% บ่งชี้โอกาสเติบโต สร้างผลตอบแทนที่มั่นคง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองหุ้นของกองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง หรือ VAYU1 เพื่อนำเสนอแก่นักลงทุนในการประกอบการตัดสินใจลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้อง โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่ามีหุ้นบางตัวที่กองทุนถือครองในสัดส่วนที่สูง ซึ่งอาจส่งสัญญาณแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นต่อไป ซึ่งมีรายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้
ทั้งนี้ จากรายละเอียดตารางด้านบน พบว่ากองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง มีการถือครองหุ้นในสัดส่วนที่สูงในบริษัทหลักๆ โดย 5 อันดับแรกของหุ้นที่ถือครองเกิน 10% ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB-P) ซึ่งถือโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,726,095 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 49.57% ต่อกองทุนแต่ละแห่ง ตามมาด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จำนวน 785,298,200 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 23.32% ต่อกองทุน รวมถึง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP จำนวน 188,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 13.67% และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จำนวน 3,472,191,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 12.16%.
สำหรับการถือหุ้นของกองทุนวายุภักษ์หนึ่งในหุ้นหลักเหล่านี้สะท้อนถึงกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการถือครองหุ้นในกลุ่มการเงินและพลังงาน ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความมั่นคงและศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารและพลังงานที่ยังคงเป็นแกนหลักของตลาดทุนไทย
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากข้อมูลสัดส่วนการถือครองหุ้น นักลงทุนอาจพิจารณาเกณฑ์อื่น ๆ ประกอบเพิ่มเติม เช่น ผลประกอบการย้อนหลังของบริษัทที่กองทุนลงทุน สถานะทางการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน (P/E Ratio, P/BV Ratio, Dividend Yield) รวมถึงแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อประเมินศักยภาพการเติบโตและความเสี่ยงในการลงทุน
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวด้านนโยบายภาครัฐหรือปัจจัยภายนอก เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย การเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ก็ล้วนส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารและพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ
นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบด้าน และอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือวางแผนกับผู้แนะนำการลงทุน ก่อนตัดสินใจซื้อขายหุ้นใด ๆ ทั้งนี้ การวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนจะช่วยให้สามารถบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว