คานทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง ถล่ม! สะเทือนผู้รับเหมา “ITD-VCB” พ่วงซัพคอนแทรก 3 ราย

เปิดรายละเอียดกลุ่มผู้รับเหมา ITD-VCB และบริษัทที่รับงานต่อ ในโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ ที่เกิดอุบัติเหตุโครงสร้างทรุดตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รายงานอุบัติเหตุโครงสร้างที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก (สัญญาที่ 3) ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณหน้าด่านดาวคะนอง โดยโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี (ITD-VCB)

โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า ITD-VCB ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการ ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (VCB) โดย ITD เป็นหนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศและจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลัก ได้แก่ นายเปรมชัย กรรณสูต สัดส่วน 11.90%, นางนิจพร จรณะจิตต์ สัดส่วน 6.64% และบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด สัดส่วน 3.48%

ส่วน VCB เป็นบริษัทเอกชนที่ก่อตั้งเมื่อปี 2522 โดยมีตระกูลชวนะนันท์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลัก ได้แก่ ชวนะนันท์โฮลดิ้ง สัดส่วน 25.74%, นายวิทยา ชวนะนันท์ สัดส่วน 18.08% และนายวรวิทย์ ชวนะนันท์ สัดส่วน 17.90%

ทั้งนี้ ผลประกอบการของ VCB ในปี 2566 พบว่ามีรายได้รวม 878 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 145 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปี 2565 ขาดทุน 120 ล้านบาท และปี 2564 ขาดทุน 81 ล้านบาท

ขณะที่จากการตรวจสอบพบว่า ITD-VCB ได้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาช่วง (Subcontractors) หลัก 3 รายในการดำเนินงานก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC), บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด (MAA)

บริษัท AEC เป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 108 ล้านบาท และก่อนหน้าเคยได้รับงานโครงการรัฐ 36 โครงการ รวมมูลค่า 5,093 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลัก คือ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์ ถือหุ้นสัดส่วน 63.75% และพีรยา วรวัชพาทิน ถือหุ้นสัดส่วน 7.15% สำหรับผลประกอบการของ AEC ในปี 2566 มีรายได้รวม 619 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาท

บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2538 ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท และมีประวัติรับงานโครงการรัฐ 38 โครงการ รวมมูลค่า 1,172 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ นาวาโทวิรุฬห์ โชติบุตร และนายเทิดศักดิ์ พ่วงจินดา ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ 46.67% ส่วนผลประกอบการในปี 2566 มีรายได้รวม 444 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 43 ล้านบาท

บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด (MAA) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และเคยได้รับงานภาครัฐ 12 โครงการ รวมมูลค่า 329 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ นายวิเชียร วิไลงาม ถือหุ้น 53.05% และบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 21.55% สำหรับผลประกอบการในปี 2566 พบว่ามีรายได้รวม 629 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท

โดยเหตุการณ์โครงสร้างทรุดตัวที่เกิดขึ้นในการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของโครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งผู้รับเหมาและผู้รับเหมาช่วง การเปิดเผยโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้จะช่วยให้ภาครัฐและสาธารณชนสามารถติดตามความโปร่งใสของโครงการได้อย่างใกล้ชิด

Back to top button