MENA ตั้งเป้าปี 68 รายได้โต 10% ลุยขยายฟลีทรถ-คุมต้นทุนเพิ่มกำไร

MENA ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 10% เดินหน้าแผนขยายฟลีทรถใหม่และการเพิ่มอัตราการใช้ยานพาหนะ พร้อมรับงานใหม่และขยายฐานลูกค้า เน้นบริหารต้นทุนลดค่าใช้จ่าย


นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 18 มี.ค.68 ว่าผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 66.66 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 833.70 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ค่าขนส่ง และบริการขนส่งคอนกรีตเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนขยายฟลีทรถ โดยเฉพาะรถใหม่และ New Fleet ซึ่งเป็นรถ Full Trailer ประมาณ 10 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนองานกับลูกค้า ฟลีทรถที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทมีทั้งหมดประมาณ 1,600 คัน (รวมซับคอนแทรค) โดยฟลีทรถของมีนามี 707 คัน และฟลีทรถของ TDM มีการเปลี่ยนแปลง 131 คันในปีที่ผ่านมา

อีกทั้ง บริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) มีแผนขยายกองยานประมาณ 100-150 คัน โดยข้อมูลเกี่ยวกับประเภทและลักษณะงานจะเป็นข้อมูลเชิงกลยุทธ์ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 10% คาดว่าการเติบโตจะมาจากการขยายตัวอย่างออร์แกนิก (Organic Growth) และการเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์จากยานพาหนะ (Utilization) การเติบโตยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการต่าง ๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้บางโครงการจะสิ้นสุดลง แต่ยังมีโครงการใหม่ที่กำลังเตรียมการ

โครงการสำคัญที่เปิดเผยได้ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการไฟฟ้าบางละมุง รวมถึงโครงการโอเมก้า ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางบางนา-ชลบุรี และโครงการรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

โดยในปีนี้ แนวโน้มธุรกิจของบริษัทคาดว่าจะเติบโตจากภาคก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยบริษัทขยายการดำเนินงานในพื้นที่ยุทธศาสตร์หลายแห่ง เช่น ภาคเหนือ, ภาคใต้, และภาคตะวันออก รวมถึงมีการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการภายในและการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น ตู้เย็นและอาหารสัตว์ ซึ่งมีซีซั่นของตนเอง ในช่วงซีซั่นสูงการดำเนินงานจะมีแนวโน้มดี แต่ในช่วงซีซั่นต่ำ บริษัทจะใช้วิธีการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรักษาความสมดุล

ทั้งนี้บริษัทลงทุนในงาน New Feed อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในส่วนของ PDM ซึ่งมีการขยายงานขนส่งต่าง ๆ คาดว่ากลุ่มงานนี้จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2568

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีคนขับรถประมาณ 600-700 คน และมีแผนเสริมการสรรหาคนขับและโครงการรถร่วมเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน

“อย่างไรก็ดี ในปี 2568 เป้าหมายรายได้ของ TDM คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,570 คัน โดยเติบโตประมาณ 20% จากการขยายสาขาของ CJ นอกจากนี้บริษัทมีแผนปรับลดค่าใช้จ่ายในหลายด้าน เช่น การซ่อมบำรุง และค่าอะไหล่ รวมถึงการพิจารณาใช้รถ EV ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง เพื่อลดต้นทุนและเสริมสร้างความยั่งยืนในอนาคต” นางสุวรรณา กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button