“ดาวโจนส์” ปิดบวก 383 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้นในวันพุธ (19 มี.ค.68) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25%–4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในปีนี้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้น

ดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดังนี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 41,964.63 จุด เพิ่มขึ้น 32 จุด หรือ 0.92%
• ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 5,675.29 จุด เพิ่มขึ้น 63 จุด หรือ 1.08%
• ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 17,750.79 จุด เพิ่มขึ้น 67 จุด หรือ 1.41%

ในบรรดา 11 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของดัชนี S&P 500 ทุกกลุ่มปิดในแดนบวก โดยกลุ่มที่ปรับตัวโดดเด่น ได้แก่ สินค้าฟุ่มเฟือย เพิ่มขึ้น 1.9%, พลังงาน ขยับขึ้น 1.59%, และ เทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 1.42%

หุ้นที่ปรับตัวโดดเด่น ได้แก่ Boeing (BA) ซึ่งพุ่งขึ้น 6.84% หลังจากบริษัทประเมินว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรในระยะสั้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการบิน

แม้ว่าตลาดจะได้รับแรงหนุนจากท่าทีของเฟด แต่นักลงทุนยังคงจับตานโยบายภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ซึ่งมีแผนบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดและทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต