ลูกชาย “สันติ” ตั้งโต๊ะแถลง! ปัดเอี่ยวดีลตึก 7 พันล้านของประกันสังคม

ลูกชาย “สันติ” แถลงปัดเอี่ยวดีลขายตึก 7 พันล้านของประกันสังคม เผยเคยเป็นเจ้าของ แต่ขายให้เอกชนต่างชาติไปตั้งแต่ปี 2562 ด้าน “สันติ” ยันครอบครัวไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 มี.ค.68) นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ลูกชายของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชี้แจงกรณีสำนักงานประกันสังคมซื้ออาคาร Skyy9 (เดิมชื่อ ICE Tower และแคส แคปปิตอล) ในมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท

นายพัฒนา ระบุว่า บริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ซึ่งตนบริหารจัดการเคยเป็นเจ้าของอาคารดังกล่าว โดยซื้อมาเมื่อปี 2560 ขณะนั้นอาคารร้าง อยู่ในสภาพทรุดโทรม ก่อนที่ต่อมาจะขายให้ บริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด (AGRE 101) ซึ่งเป็น Private Equity Fund ที่ระดมทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ

ลูกชายนายสันติ กล่าวอีกว่า บริษัท วอเตอร์เกทฯ ทำข้อตกลงซื้อขายตึกกับ AGRE 101 ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมดในอาคารให้แก่ผู้ซื้อในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท หลังจากนั้นบริษัทไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับอาคารนี้อีก และไม่ได้ติดตามว่าถูกขายต่อในภายหลังหรือไม่

นายพัฒนา ย้ำว่า ตนและบิดาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งกระทรวงแรงงาน และเพิ่งทราบข่าวการซื้อขายพร้อมกับสาธารณชน การที่ AGRE 101 ซื้อไปรีโนเวทและขายต่อเป็นเรื่องของผู้ซื้อ ตนไม่เกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง

ด้าน นายสันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวลูกชาย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ ตนเข้าใจดีเพราะเป็นนักการเมือง แต่ยืนยันว่าตนและครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาคารหลังนี้ ระหว่าง AGRE 101 และสำนักงานประกันสังคม

“มาช่วยยืนยันที่ลูกชายแถลงไปเป็นความจริง ทั้งพร้อมพัฒน์ และพร้อมทวีสิทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการซื้อขาย ระหว่าง  AGRE 101 กับประกันสังคมเลย” นายสันติ ระบุ

นอกจากนี้ นายสันติ ระบุด้วยว่า ไม่ได้พูดคุยหรือติดต่อกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน) แต่อย่างใด “ไม่เคยคุยเลย แม้จะเคยอยู่พรรคเดียว” พร้อมย้ำว่าคนเป็นนักการเมืองต้องตรงไปตรงมา

นายสันติ ยังยืนยันว่า จะไม่ฟ้องร้องบุคคลใดในเรื่องนี้ เพราะเชื่อมั่นว่าตนยืนอยู่บนความถูกต้อง

สำหรับกระแสข่าวที่ว่าตึกดังกล่าวเคยถูกเสนอให้เป็นที่ทำการของพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ ยอมรับว่า เคยมีคนขอ เพราะพรรคอยากมีสำนักงานสวย ๆ แต่ต่อมาก็มีนักลงทุนต่างชาติยื่นข้อเสนอซื้อ และบริษัทตัดสินใจขายออกไปทั้งอาคารในทันที

“ซื้อทั้งตึก โอนไปเลย จบในเช็คใบเดียว” นายสันติ ระบุ พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการฟ้องร้อง แม้กระแสข่าวที่ออกมาจะไม่เป็นความจริง

Back to top button