
TIA แนะผู้ถือหุ้น STARK รีบยื่นขอรับชำระหนี้ ก่อนหมดเขต 11 เม.ย.นี้
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) แนะให้ผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ยื่นขอรับชำระหนี้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กรมบังคับคดี ภายในวันที่ 11 เม.ย. 68 เพื่อรักษาสิทธิของท่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ ( 20 มี.ค.68) กรณีเกิดเหตุการณ์ ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ หนึ่งในจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ พ.1061/2567 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นได้ยื่นฟ้อง บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กับพวก และขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ซึ่ง สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ ผู้เสียหายกลุ่มผู้ลงทุนในหุ้นสามัญตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ได้รับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้เป็นการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action)
ผลของ คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดทำให้กลุ่มผู้ลงทุนในหุ้นสามัญในฐานะเจ้าหนี้ที่ประสงค์จะได้รับ ชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ จะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ต่อ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันที่มีการประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดใน ราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ทุกคน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จึงแนะนำให้ผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ทุกท่าน ยื่นขอรับชำระหนี้ตามความเสียหาย ที่ตนได้รับต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ภายในวันที่ 11 เมษายน 2568 (ประกาศคำสั่งพิทักษ์ ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568)
ทั้งนี้ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ขอแนะนำให้ผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ที่ประสงค์จะยื่น คำขอรับชำระหนี้ดำเนินการและจัดเตรียมเอกสารประกอบ ดังนี้
1.) ดาวน์โหลดคำขอรับชำระหนี้ แบบฟอร์ม ล.29 ของกรมบังคับคดีและบัญชีรายละเอียดแห่ง ทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นหลักประกัน (ตาม QR Code) และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
2.) แนบเอกสารหลักฐานประกอบคำขอรับชำระหนี้ ดังนี้
2.1 หลักฐานแสดงการเป็นผู้ถือหุ้น STARK เช่น ใบยืนยันการซื้อขาย หรือ รายการเคลื่อนไหวหลักทรัพย์จากโบรกเกอร์ทุกธุรกรรมที่ได้รับความเสียหายจากการที่ STARK เปิดเผยงบการเงินอันเป็นเท็จ
2.2 ตารางคำนวณมูลค่าความเสียหายหุ้นสามัญ (เป็นแบบฟอร์มคำนวนที่สามารถกรอกรายละเอียดได้ ตาม QR Code)
ตารางคำนวณความเสียหายนี้จะใช้หลักคำนวณหาส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายและราคาที่แท้จริง (true price) ในช่วงระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 (วันที่ STARK เปิดเผยข้อมูลงบการเงินปี 2564 ไตรมาสที่ 1) ถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2566 (วันที่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงว่างบการเงินมีข้อมูลอันเป็นเท็จ) ตามหลักการคำนวณค่าเสียหายคดีหมายเลขดำที่ พ.1061/2567
ทั้งนี้ หากเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นสามัญประสงค์จะใช้วิธีการคำนวณค่าเสียหายประการอื่น ก็สามารถแนบตารางคำนวณค่าเสียหายในรูปแบบอื่นประกอบคำขอรับชำระหนี้ได้เช่นกัน
2.3 ตารางคำนวณดอกเบี้ย กรณีประสงค์จะเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 5 (ตามอัตราที่ กฎหมายกำหนด) เจ้าหนี้สามารถคำนวณได้จนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด (เป็นแบบฟอร์มคำนวน ที่สามารถกรอกรายละเอียดได้ ตาม QR Code)
2.4 คำฟ้องคดีแพ่งหมายเลขคดีดำที่ พ.1061/2567 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้และเอกสาร ประกอบรายการอื่นๆ
ในการนี้เนื่องจากเจ้าหนี้รายที่ 1674 ได้ยื่นคำร้องขอตั้งเอกสารสำนวนกลางให้แก่ เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นสามัญได้ใช้อ้างอิงแล้ว หากเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นสามัญรายใดประสงค์จะใช้เอกสารที่ปรากฏในสำนวน กลาง สามารถยื่นคำร้องขอใช้เอกสารร่วมและระบุชื่อเอกสารได้โดยไม่ต้องแนบเอกสารรายการดังกล่าวอีก (โดยกรอกรายละเอียดคำร้องขอใช้เอกสารร่วมได้ ตาม QR Code)
เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นสามัญสามารถดาวน์โหลดดูตัวอย่างคำขอรับชำระหนี้ได้ (ตาม QR Code)
3.) การยื่นคำขอรับชำระหนี้ สามารถดำเนินการได้ 2 วิธี ดังนี้
3.1 ยื่นคำขอรับชำระหนี้และเอกสารหลักฐานประกอบ ด้วยตนเองต่อกรมบังคับคดี ณ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700 หรือ สำนักงานบังคับคดีจังหวัด
3.2 ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทาง https://reqonline.led.go.th/online/pages/login.jsp โดยกรณียื่นคำขอรับชำระหนี้ผ่านช่องทาง อิเล็กทรอนิกส์ หลังจากยื่นแล้วต้องสั่งพิมพ์ (Print) คำขอรับชำระหนี้และเอกสารหลักฐานประกอบคำขอรับ ชำระหนี้ผ่านระบบ แล้วส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามที่อยู่ของกรมบังคับคดีทางไปรษณีย์อีกครั้ง
สุดท้ายนี้ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย กลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ตามกระบวนการยุติธรรม ให้บังเกิดผล และช่วยกระจายข่าวสารไปยังกลุ่มผู้เสียหายตามคำร้องขอของโจทก์ตัวแทนผู้เสียหายเมื่อมีความคืบหน้าของ คดี เป็น “คำประกาศ” ไปแล้ว เป็นจำนวน 4 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1/2567 ลว. 19 กันยายน 2567 ฉบับที่ 2/2567 ลว. 12 พฤศจิกายน 2567 ฉบับที่ 3/2567 ลว. 18 ธันวาคม 2567 และ ฉบับที่ 1/2568 ลว. 28 กุมภาพันธ์ 2568
นอกจากนี้ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ยังมีการแจ้งข้อมูล ผ่านช่องทางการสื่อสาร คือ 1) ระบบ ออนไลน์ ตามอีเมล์ของผู้เสียหายแต่ละบุคคล ที่ลงทะเบียนไว้กับสมาคมฯ 2) ระบบออนไลน์ ในหน้าเว็บไซต์ ของสมาคมฯ คือ www.thaiinvestors.com (ชื่อเมนู Class Action) ตลอดจนได้รับความอนุเคราะห์ จากทุก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน และสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับทราบข้อมูล ตระหนักแห่งสิทธิ ของตนอย่างทั่วถึง