“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ หวั่นมาตรการ “ภาษีสหรัฐ” ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบ ตามแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงมาตรการภาษีศุลกากรฉบับใหม่


ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ (21 มี.ค.) ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

โดย ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดที่ระดับ 37,619.37 จุด ลดลง 132.51 จุด (-0.35%) ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 110.88 จุด (-0.46%) ปิดที่ 24,109.07 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ขยับลง 7.19 จุด (-0.21%) อยู่ที่ 3,401.76 จุด ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.16% ในขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียสามารถปรับตัวขึ้น 0.12%

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดมาจากการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในวันที่ 2 เมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศเป้าหมายและอัตราภาษีที่จะเรียกเก็บ ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่น กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของญี่ปุ่น ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากขยายตัว 3.2% ในเดือนมกราคม ปัจจัยสำคัญมาจากมาตรการเงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภคของรัฐบาลญี่ปุ่น

ขณะที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า มูลค่าสินทรัพย์ของครัวเรือนญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ 2,230 ล้านล้านเยน (ประมาณ 15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการออมและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของภาคครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกในระยะสั้น ทั้งนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก และแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ยังเผชิญความไม่แน่นอน

Back to top button